นักวิเคราะห์ชื่อดังคาดตลาดหุ้นนิวยอร์กแนวโน้มซบเซาหลังแบงค์ชาติทั่วโลกชะลอใช้มาตรการฟื้นฟู

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 26, 2009 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แอนดรู สมิธเทอร์ส นักวิเคราะห์ชื่อดังของสหรัฐคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มร่วงลงหลังจากธนาคารกลางในหลายประเทศชะลอการใช้มาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นเหตุให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกล่าวว่า ราคาหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ในระดับสูงกว่าราคาตลาดที่เป็นธรรม (fair market value) อยู่ราว 40%

"ตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนและอ่อนไหวต่อข่าวที่ธนาคารกลางหลายประเทศชะลอการใช้มาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ ซึ่งหากธนาคารกลางยุติการใช้มาตรการเมื่อใด ตลาดหุ้นจะร่วงลงทันที นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มอ่อนตัวลงหลังจากงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐหดตัวลงเหลือ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์เนื่องจากเข้าซื้อสินทรัพย์ในสถาบันการเงินที่ประสบปัญหานับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤตการณ์การเงิน" สมิธเทอร์สกล่าว

สมิธเทอร์สยังกล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากเฟดแล้ว วิกฤตการณ์การเงินโลกยังทำให้ธนาคารกลางอังกฤษใช้งบประมาณกว่า 1.75 แสนล้านปอนด์ หรือ 2.86 แสนล้านดอลลาร์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วง 7 เดือนที่แล้ว ซึ่งการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทุกภาคส่วน รวมถึงในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก

นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย.ที่เฟดจะเปิดเผยในวันจันทร์ รวมถึงราคาบ้านเดือนส.ค.ที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค.ในวันอังคาร และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ บลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ