โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อหุ้น บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR)มองราคาหุ้นปัจจุบันลงมาต่ำกว่าเป้าหมาย ถือว่าไม่แพง เพราะที่ผ่านมาปรับลงมามากแล้วทั้งจากปัญหาเรื่องมาบตาพุดและความล่าช้าในการควบรวมกลุ่มโรงกลั่นในเครือ บมจ.ปตท.(PTT) คาดว่าราคาโอกาสฟื้นตัวตามค่าการกลั่นที่น่าจะฟื้นตัวได้ในระยะสั้นจากป้จจัยพายุเฮอริเคนไอด้าพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก และเชื่อว่าปัญหาจะคลี่คลายไปในทางที่ดี
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 31.00 บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 30.50 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ถือ 28.00 บล.บีฟิท ซื้อ 31.00 บล.เอเซีย พลัส ถือ 25.32นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น PTTAR เนื่องจากราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาเหมาะสม และเชื่อว่าราคาหุ้นจะมีการฟื้นตัวได้ตามค่าการกลั่นที่มีโอกาสฟื้นตัวได้ในระยะสั้นจากข่าวเฮอริเคนไอด้ากำลังมุ่งหน้าไปยังอ่าวเม็กซิโก
"ตอนนี้ราคาลงมาเยอะก็มีการดีดตัวตามรอบซื้อเก็งกำไรได้" นายกิติชาญ กล่าวแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/52 ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมาทำให้อาจจะมีกำไรสต็อกน้ำมัน เป้าหมาย 31.00 บาท ส่วนประเด็นเรื่องมาบตาพุดต้องรอเรื่องการไต่สวนของศาลในวันที่ 12 พ.ย.นี้ก่อนว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรคงต้องใช้เวลา
นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาสเปรดของปิโตรเคมีทั้งพาราไซลีนกับเบนซีนปรับตัวดีขึ้น เป็นผลบวกกับ PTTAR หุ้น ณ ราคานี้ถือว่าไม่แพงเพราะราคาเป้าหมายให้ไว้ที่ 28 บาท upside ก็มี แต่มองว่าโอกาสของสเปรดของปิโตรเคมีอาจจะมีความเสี่ยงบ้าง จึงแนะเป็นกลางๆ
"ถ้ามองในแง่ upside ก็ยังเป็นบวกอยู่ค่อนข้างมาก และสาเหตุหนึ่งมองว่าสเปรดปิโตรเคมีที่ดูดีขึ้นเป็นตัวช่วยด้วย แนวโน้มไตรมาส 4/52 ถ้าสเปรดขึ้นมาแล้วยืนได้ก็ดีก็น่าจะทำให้ผลประกอบการดีกว่าที่มองไว้ แต่ก็ดูว่าจะยืนได้นานแค่ไหน"นายสุทธิชัย กล่าวนายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท แนะเล่นไปตามตลาด ช่วงนี้ต้องรอดูผลประกอบการล่าสุด แต่กลุ่มโรงกลั่นในไตรมาส 3/52 น่าจะมีกำไรเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุนหนัก แม้ว่ากำไรอาจจะต่ำกว่าไตรมาส 2/52 แต่จะพลิกจากที่ขาดทุนช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถ้ามองรวมทั้งปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยพื้นฐานให้ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท
น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/52 ถ้าเทียบกับไตรมาส 2/52 คงชะลอลง เพราะธุรกิจโรงกลั่นยังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ได้ในส่วนของอะโรเมติกส์มาช่วยพยุงไว้
แนวโน้มไตรมาส 4/52 อย่างดีที่สุดก็ทรงๆ ตัวหรือน่าจะอ่อนตัว เนื่องจากสเปรดอะโรเมติกส์เริ่มลดลงแล้ว ค่าการกลั่นก็ยังไม่ค่อยดี และเหตุที่แนะ"ถือ"เพราะยังมีประเด็นกดดันจากเรื่องมาบตาพุดที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนเรื่องควบรวมกิจการในกลุ่ม ปตท.ก็คงต้องรอให้กรณีการลงทุนในมาบตาพุดมีความชัดเจนก่อนจึงจะสามารถ value ได้
"ราคาหุ้นที่ดีดตัวขึ้นมาเป็นเพราะลงไปค่อนข้างต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นจริง" น.ส.นลินรัตน์ กล่าวบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"ราคาพื้นฐานปี 53 เท่ากับ 30.50 บาท ในระยะสั้นคาดว่าราคาหุ้นยังถูกกดดันจากปัญหามาบตาพุดและการควบรวมที่ล่าช้าออกไป แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายยังมีมุมมองเป็นบวกว่าปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายได้ไม่ยาก