ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในวันนี้ และทำสถิติดิ่งลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นได้ฉุดหุ้นบริษัทส่งออกร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศและปัญหาในภาคการเงินของญี่ปุ่นยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดนิกเกอิร่วงลงในวันนี้ด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 96.10 จุด หรือ 1.01% แตะที่ 9,401.58 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.เป็นต้นมา
หุ้นสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 86 เยน หลังจากมีรายงานว่าพนักงานที่เตรียมเกษียณอายุงานของ JAL ไม่ยอมรับนโยบายลดเงินบำเน็จบำนาญ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้กระแสคาดการณ์ที่ว่า JAL จะล้มละลายมีน้ำหนักมากขึ้น
ทั้งนี้ หุ้น JAL มีมูลค่าหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งในปีนี้ และดิ่งลง 14 % นับตั้งแต่ปิดตลาดเมื่อวันที่ 17 พ.ย. เมื่อนายเซอิจิ เมฮารา รมว.คมนาคม สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนด้วยการกล่าวว่า การล้มละลายของ JAL ยังคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงอย่างหนักหลังจากมิตซูบิชิ ยูเอฟ เจ สถาบันการเงินปล่อยกู้รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ประกาศระดมทุนด้วยการออกหุ้นใหม่ เพื่อเสริมสถานะด้านเงินทุนหลังจากที่เคยขายหุ้นสามัญมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ฮิโรอิชิ นิชิ นักวิเคราะห์จากบริษัท นิกโก คอร์เดียล กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลนับตั้งแต่นายนาโอโตะ คัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการคลังญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเต็มตัวแล้ว หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคดิ่งลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกกังวลที่สกุลเงินเยนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 88 เยนต่อดอลลาร์ จะฉุดผลกำไรของบริษัทส่งออก โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นต่อไปอีกเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐยังคงอยู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มขนส่งทางอากาศ และกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าและกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้นเล็กน้อย