ก.ล.ต.แก้เกณฑ์ไม่ให้นักลงทุนตปท.ลงทุนเกิน 49% ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 24, 2009 16:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิด บุญยัษฐิติ ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ปรับปรุงเหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้ง และจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการกำหนดสัดส่วนผู้ลงทุนต่างด้าวให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว

เกณฑ์ที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้มีการห้ามบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.)จัดสรรหน่วยลงทุนให้ผู้ลงทุนต่างด้าวเกิน 49% ทั้งสำหรับ 1.กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(Freehold)ที่ลงทุนในที่ดิน และ 2.กองทุน Freehold ที่ลงทุนในอาคารชุด ซึ่งพื้นที่ห้องชุดที่กองทุนรวมจะลงทุน รวมทั้ง พื้นที่ที่ถือกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างด้าวอยู่ก่อนแล้วเกิน 49% ของพื้นที่ห้องชุดทั้งหมดในอาคารชุดนั้น

ขณะที่ กองทุนที่ได้สิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์(Leasehold)จะไม่จำกัดสัดส่วนการลงทุนของผู้ลงทุนต่างด้าว ทั้งนี้ กำหนดให้แต่งตั้งนายทะเบียนที่สามารถคุมสัดส่วนของผู้ลงทุนต่างด้าวตลอดเวลาทั้งกองทุนประเภท Freehold และ Leasehold

อย่าไงรก็ตาม กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จัดตั้งก่อนหน้านี้ให้มีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อตรวตสอบการถือหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนต่างด้าวภายใน 1 ม.ค.53 หากมีผู้ลงทุนต่างด้าวถือเกิน 49% ให้ถือต่อไปได้ แต่ห้ามกองทุนฯ ซื้อที่ดิน หรือ อาคารชุดเพิ่มเติม จนกว่าสัดส่วนการถือของผู้ลงทุนต่างด้าวจะลดลงเหลือไม่เกิน 49%

นอกจากนี้ ยังให้แก้ไขเพิ่มความคุ้มครองและเปิดเผยข้อมูลแก่นักลงทุน โดยในส่วนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ให้ทรัพย์สินที่ระบุไว้ในกองบทุนต้องก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าโครงการ ณวันที่สำนักงานอนุมัติให้จัดตั้งกองทุน เพื่อไม่ให้ผู้ลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าหากการพัฒนาไม่แล้วเสร็จตามกำหนด

รวมทั้งอนุญาตให้ลงทุนใน golden share ของบริษัทที่เช่าอสังหาริมทรัพย์จากองทุนรวม โดยตกลงจ่ายค่าเช่าให้กองทุนรวมตามผลประกอบการของอสังริมทรัพย์ที่เช่าได้เพื่อดูแลรักษาผลประโยชน์ของกองทุนรวม

และให้กองทุนแยกให้ชัดเจนระหว่างจ่ายเงินปันผล และ เงินที่ได้คืนจากการลงทุนหรือให้เช่าสินทรัพย์ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจ่าเงินปันผลที่ได้รับมามาจากการลงทุนทั้งหมด

นายประกิด กล่าวว่า ได้เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดสรรหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยการเสนอขายและจัดสรร IPO ให้ลงทุนได้เกินกว่า 50% จากเดิม จัดสรร 1 ใน 3 ของการจัดสรรตามดุลยพินิจของ บลจ. โดยส่วนนี้ เจ้าของทรัพย์สินสามารถถือครอง 1 ใน 3 และ นักลงทุนสถาบันเข้าถือราว 17% ขณะที่ในส่วนของผู้จองซื้อทั่วไปก็ให้เหลือไม่น้อยกว่า 50% จากเดิม 2 ใน 3 ทั้งนี้สำนักงานฯมองว่าต้องการให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาถือหุ้นและมีบทบาทเข้ามาตรวจสอบกองทุนด้วย

ทั้งนี้ เกณฑ์การแก้ไขดังกล่าว มีผลตั้งแต่ วันที่ 16 พ.ย.52


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ