PDI คาด Q4/52 กำไรดีต่อเนื่องราคาฟื้น-ปริมาณเพิ่ม, ทั้งปี 53 ขายได้หมด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 1, 2009 10:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชิดชัย ทวีพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหารงานกลาง บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/52 แนวโน้มน่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/52 จากราคาสังกะสีที่ฟื้นตัว และความต้องการของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ

"ผลประกอบการไตรมาส 4 ขึ้นอยู่กับราคาสังกะสีและปริมาณการขาย ส่วนที่โบรกฯบอกไตรมาส 4 กำไรจะสูงที่สุดในรอบปีนี้ คงตอบเองไม่ได้ แต่ความต้องการสังกะสีดีขึ้นจากโดยรวมของสภาพตลาด เพราะอย่างไตรมาส 3/52 จะเห็นได้ว่าทุกอย่างก็เริ่มที่จะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไตรมาส 4 ก็คาดว่าน่าจะดีต่อเนื่องตามความต้องการใช้สังกะสีที่มีการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก"นายชิดชัย กล่าว

อนึ่ง ในไตรมาส 3/52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 217.11 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 16.82 ล้านบาทในไตรมาส 2/52 โดยในไตรมาส 3/52 มีกำไรจากการที่ราคาโลหะสังกะสีตามราคาโลหะโลก ณ กรุงลอนดอนเพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยที่ 1,473 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในไตรมาส 2/52 มาเป็น 1,761 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่รายได้จากการขายและบริการรวมอยู่ที่ 1,922 ล้านบาท

นายชิดชัย กล่าวว่า ปริมาณขายในไตรมาส 4/52 อาจจะมากกว่าไตรมาส 3/52 โดยปริมาณขายในแต่ละไตรมาสคงไม่เท่ากันก็มี season เป็นตัวแปรหลัก อย่างในช่วงหน้าฝนปริมาณขายน้อยลงตามการก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ปริมาณขายในไตรมาส 4/52 น่าจะมากกว่าไตรมาส 3/52 ที่เป็นช่วงหน้าฝน แต่โดยเฉลี่ยก็จะไม่ผิดกันมากนัก

"ปริมาณขายไตรมาส 4 อาจจะมากกว่าไตรมาส 3 เพราะไตรมาส 4 ไม่มีฝนแล้ว....ก็มีส่วนด้วย"นายชิดชัย กล่าว

ส่วนราคาสังกะสีไตรมาส 4/52 เฉลี่ยจะสูงกว่าราคาเฉลี่ยไตรมาส 3/52 ที่ 1,761 เหรียญสหรัฐ/ตันหรือไม่ นายชิดชัย กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้แต่คิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า เพราะหากดูข้อมูลจากในอดีตย้อนหลังแนวโน้มปลายปีจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งทิศทางราคาสังกะสีจะปรับขึ้นได้ต่อหรือไม่ขึ้นกับข้อมูลจากผู้ค้ารายใหญ่และโดยสภาวะของหลายปัจจัย

แต่ในช่วงนี้ราคาตลาด LME ที่ประกาศทุกวันในช่วงที่ผ่านมาระยะ 1 เดือน ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะยังไม่เข้าใกล้ new high ในอดีตที่เคยขึ้นไปสูงถึงกว่า 3,000 เหรียญสหรัฐ/ตันเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 2,000 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน

ราคาสังกะสีในตลาด LME ณ วันที่ 27 พ.ย.อยู่ที่ 2,230 เหรียญสหรัฐ/ตัน

นายชิดชัย คาดว่า ทั้งปี 52 ปริมาณการขายน่าจะทำได้ตามกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 1.1 แสนตัน ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้ก็คงจะขายได้ทั้งหมด เพราะเราก็ไม่ได้มีสต็อกเหลืออยู่มากนัก โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะขายในประเทศและก็มีส่งออกบ้างในแถบภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก ขณะที่รายได้รวมปีนี้คงขึ้นอยู่กับราคาสังกะสีในไตรมาสสุดท้ายด้วย

อนึ่ง งวด 9 เดือน มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 4,665 ล้านบาท

สำหรับปันผลงวดปีนี้ (52) ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเพราะต้องรอผลประกอบการไตรมาส 4/52 ก่อน เพราะทั้งปีในแง่เราก็หวังว่าจะเป็นกำไรสุทธิถึงแม้ไตรมาส 1-2/52 จะขาดทุน แต่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิแล้ว 30 ล้านบาท แต่ทั้งหมดก็คงจะต้องรอดูผลประกอบการในไตรมาส 4/52

* ปี 53 คงปริมาณขาย 1.1 แสนตัน ยังมองหาเหมืองใหม่

นายชิดชัย กล่าวว่า โดยปกติปริษัทจะมีการพิจารณาทิศทางนโยบายธุรกิจของปี 53 ในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อรอดูผลประกอบการไตรมาส 4/52 ตอนนี้เหลืออีก 1 เดือนในแง่ของตัวธุรกิจ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะตั้งเป้าปริมาณขายเท่าเดิมประมาณ 1.1 แสนตันในปี 53 เนื่องจากบริษัทผลิตเต็มที่ 100% อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่มีการขายล่วงหน้าสำหรับปี 53 เช่นเดียวกับในปีนี้ แม้ว่าจะเคยมีการขายล่วงหน้าในช่วงสั้น ๆ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่ขณะนี้ไม่มีนโยบายแล้ว โดยการขายสังกะสีในปัจจุบันจะกำหนดราคาขายตามราคาเฉลี่ยของแต่ละเดือน และประกาศให้ลูกค้าทราบเพื่อจองซื้อเข้ามา

"ปีหน้าก็ยังไม่มีการขายล่วงหน้า แต่เราก็ไม่เคยขายเป็นราคา spot จะขายเป็นราคาเฉลี่ยของเดือนและประกาศเป็นราคาขาย และลูกค้าก็จะจองเข้ามา" นายชิดชัย กล่าว

ส่วนจะมีการมองหาเหมืองใหม่เพิ่มในต่างประเทศหรือไม่นั้น นายชิดชัย กล่าวว่า บริษัทยังคงมองหาอยู่ แต่จะต้องรอจังหวะที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะมีการชี้แจงอะไรทั้งหลายออกไปจากทางด้านผู้ใหญ่ ต้องรอสักระยะหนึ่ง

*โรงงานเอทานอลร่วมทุน เริ่มเดินเครื่องแล้ว

สำหรับธุรกิจเอทานอล นายชิดชัย กล่าวว่า โรงงานเอทานอลของบริษัทก็เริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว เพราะได้เตรียมการจัดตั้งผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งขณะเป็นช่วงการผลิตในฤดูกาลใหม่ ส่วนรายได้จะเข้ามาเท่าใดและเมื่อใดนั้น ยังตอบไม่ได้เพราะเป็นบริษัทร่วมทุน

PDI ถือหุ้น 35% ในบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด โดยมี บมจ.ไทยออยล์(TOP) ถือหุ้น 30% และ บริษัท เพโทรกรีน ในเครือมิตรผล ถือหุ้น 35% โดยเพโทรกรีนจะเป็นผู้ดูแลด้านเทคโนโลยี ผาแดง ดูแลเรื่องการส่งเสริมการปลูกอ้อย และไทยออยล์ดูแลช่องทางการค้า มีกำลังการผลิตเอทานอลเริ่มต้นที่ 40 ล้านลิตร/ปี จากกำลังการผลิตเต็มที่ 60 ล้านลิตร/ปี หรือ 2 แสนลิตร/วัน โดยการขายเอทานอลทั้งหมดให้กับ บมจ.ปตท. (PTT)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ