ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 708.20 จุด ลดลง 1.81 จุด(-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 12,901 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนบวกช่วงสั้น โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 713.00 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆอ่อนตัวลง และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 706.33 จุด
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ขายทำกำไรจากวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดภูมิภาคค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่าศาลฯอาจจะยกเลิกคำสั่งระงับโครงการลงทุนในมาบตาพุดตามคำขออุทธรณ์ของภาครัฐ ซึ่งตลาดเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง ทำให้เมื่อวานราคาปรับขึ้นมาแรง โดยแรงซื้อส่วนใหญ่เป็นของสถาบันไม่ใช่ต่างชาติ ดังนั้นในช่วงสั้นเริ่มคิดว่า การปรับตัวของราคาในก่อนหน้านี้อาจะเป็นการเก็งกำไรของนักลงทุนระยะสั้นอาจทำให้การยืนของราคาไม่ค่อยมั่นคงนัก เมื่อเห็นว่าต่างชาติไม่ได้เข้ามาซื้อจึงมีการเทขายออกมาบ้างด้วยความกังวล
ช่วงบ่ายคงต้องรอลุ้นคำตัดสินของศาลปกรองสูงสุดที่กำหนดนัดฟังคำสั่งประมาณ 13.30 น. คิดว่าหากเป็นไปตามอย่างที่คาดการณ์แนวโน้มคำสั่งศาลก็อาจจะมีประเด็นในการเก็งกำไรต่อจากเรื่องศาลคือเรื่องการควบรวมของกลุ่ม PTT ที่ชะงักไปจากกรณีมาบตาพุด
"เช้า short term profit taking ลงมา โดยรวมมองระยะสั้นก็ยังน่าจะเป็นบวกอยู่ เท่าที่ดูคู่กรณีอย่าง PTT ก็ให้ข้อมูลทางด้านบวกสำหรับกลุ่ม และระยะเวลาการตัดสินก็เร็วกว่าเดิมที่เคยคาดไว้เหมือนกับส่งสัญญาณว่าจะเป็นบวกกับทางกลุ่ม PTT อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูคำตัดสินของศาล แต่ในตลาดส่วนใหญ่ค่อนข้างโน้มเอียงไปในทางที่ให้ทำการลงทุนได้ต่ออาจจะมีการตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาเพื่อให้ถูกกฎหมาย" นายพงศ์ภัทร์ กล่าวส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TCAP มูลค่าการซื้อขาย 1,205.03 ล้านบาท ปิดที่ 23.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,115.96 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 947.84 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 831.16 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 727.20 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 1.50 บาท