ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 58.89 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 5,247.41 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างคึกคัก ขานรับรายงานจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด
ขณะที่จีนรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 55.8 จุด ในเดือนม.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว และญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.2% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มวิตกกังวลกับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจยุติแผนการซื้อพันธบัตรมูลค่า 2 แสนล้านปอนด์ (3.20 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษกำลังประเมินว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มแผ่วตัวลงหรือไม่ในช่วงปลายปี หลังจากที่ในไตรมาส 4 ปี 2552 เศรษฐกิจอังกฤษกระเตื้องขึ้น 0.1%
หุ้นไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่สุดในยุโรป พุ่งขึ้น 6.7% หลังจากไรอันแอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2552 ขณะที่หุ้นเวนแดนต้า รีซอสเซส ในกลุ่มเหมือง ดีดตัวขึ้น 5.2% หลังจากหนังสือพิมพ์ดิ อินดิเพนเดนท์รายงานว่า เวแดนต้า รีซอสเซส เตรียมระดมทุนผ่านการขายหุ้นของบริษัทในเครือ