ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากบาร์เคลย์ส และบีเอ็นพี พาริบาส์ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 32.58 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 5,276.64 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,244.06-5,304.54 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการของบาร์เคลย์ส และบีเอ็นพี พาริบาส์ โดยหุ้นบาร์เคลย์สปิดบวก 2.9% หลังจากบาร์เคลย์สเผยกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2552 อยู่ที่ 6.9 พันล้านปอนด์ (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงกว่าระดับ 824 ล้านปอนด์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปีขยายตัวแตะระดับ 9.4 พันล้านปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากระดับ 4.4 พันล้านปอนด์ในปี 2551
บีเอ็นพี พารีบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ทำกำไรได้ต่อเนื่องกัน 4 ไตรมาส ซึ่งโดยกำไรของธนาคารในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.37 พันล้านยูโร หรือ 1.89 พันล้านดอลลาร์ จากที่ขาดทุน 1.37 พันล้านยูโรในปีที่แล้ว
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดบวก 2.9% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 1.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเวส ปิดบวก 0.2% หุ้นริโอ ตินโต ปิดพุ่ง 1.2% หุ้นเอ็กซ์สตราตาปิดบวก 2.3% หุ้นลอนมินปิดพุ่ง 2.8% หุ้นคาซัคมิสปิดบวก 3.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดพุ่ง 4.1%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.9% ในเดือนม.ค. หลังเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23,500 รายจากเดือนก่อนหน้านี้ แตะที่ 1.64 ล้านราย ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 10,000 ราย