โบรกฯแนะ"ซื้อ"TVO ช่วงสั้นรอรับปันผลสูง-ปี 53 กำไรโตชัดในครึ่งปีหลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 25, 2010 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ" หุ้น บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO)ทั้งเพื่อลงทุนระยะยาวหรือรอรับเงินปันผล เพราะคาดว่ากำไรปกติในปี 53 เติบโต 75-84% มาที่ประมาณ 1.60-1.68 พันล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นผลจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันตัน/วัน จากปีก่อนผลิตได้ 4 พันล้านตัน/วัน ก่อนขยายเป็น 6 พันตัน/วันในปี 54 และคาดว่าแนวโน้มราคาถั่วเหลืองเฉลี่ยทั้งปี 53 น่าจะสูงกว่าปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนที่มีผลต่อความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย

ขณะที่อัตราผลตอบทนการจ่ายเงินปันผลสูงระดับ 10-10.5% ต่อปี คาดว่า TVO จะจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 52 อีก 0.80-0.85 บาทต่อหุ้น

         โบรกเกอร์          คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

          บล.ฟินันเซียไซรัส     ซื้อลงทุน         23.00
          บล.เอเซียพลัส         ซื้อ           22.00
          บล.กสิกรไทย          ซื้อ           22.00
          บล.กิมเอ็ง          ซื้อลงทุน         21.00
          บล.ยูไนเต็ด         ถือรอปันผล       20.30
          บล.ซิกโก้           เทรดดิ้ง         19.40

น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มราคาเมล็ดถั่วเหลืองครึ่งแรกปี 53 ลดลง เนื่องจากจากปริมาณถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นมากหลังอาร์เจนติน่าผู้ผลิตรายใหญ่มีผลผลิตสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้ต้นทุนราคาถูกลง ขณะเดียวกันบริษัทก็ต้องปรับลดราคาขาย

แต่คาดว่าในครึ่งหลังปีนี้ แนวโน้มราคาเมล็ดถั่วเหลืองจะสูงขึ้น จากความต้องการเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน จึงคาดว่าทั้งปี 53 บริษัทจะมีกำไรปกติเพิ่มขึ้น 75% เป็น 1,600 ล้านบาท หรือระดับ P/E ที่ 8 เท่า เพราะนอกเหนือจากราคาถั่วเหลืองถั่วเฉลี่ยปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนแล้ว กำลังการผลิตของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 4 พันตัน/วัน เป็น 5 พันตัน/วัน และจะขยายต่อเนื่องเป็น 6 พันตัน/วันในปี 54

นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 52 อีก 0.80 บาท/หุ้น

"ปีนี้โตเพราะมีวอลุ่มเพิ่มจากการขยายกำลังการผลิต ส่วนราคาคิดว่าครึ่งแรกยังไม่ดี แต่ครึ่งหลังคิดว่าน่าจะเอากลับมาได้ โดยรวมแล้วน่าจะทำให้ทั้งปีมีกำไรโต ...คิดว่าน่าซื้อ แต่ครึ่งปีแรกยังไม่ค่อยดี ก็แนะให้ซื้อถือลงทุน ราคาหุ้นก็ไม่หวือหวามาก ครึ่งหลังราคาน่าจะดีกว่าครึ่งแรก และถ้าหากราคาน้ำมันแพงขึ้นไปอีก ตลาดก็จะกลับมาเล่นเรื่องพลังงานทดแทน ตัวนี้ก็จะได้อานิสงส์อีก" น.ส.จิตรา กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.ยูไนเต็ด มองว่า แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 53 ไม่น่าจะหวือหวา แต่จะเห็นการเติบโตชัดเจนในครึ่งปีหลังที่มีกำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่เข้ามา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี และ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI

นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในครึ่งปีหลังของปี 52 อัตรา 0.83 บาท/หุ้น จากที่จ่ายไปแล้วในครึ่งแรกอัตรา 0.95 บาท/หุ้น รวมทั้งปี 52 จ่ายเงินปันผล 1.78 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 10%

"มองว่าช่วงสั้นน่าจะถือรอเงินปันผล แต่ถ้าจะลงทุนรยะยาวก็ได้ เพราะมองว่า ผลประกอบการน่าจะดีในครึ่งปีหลัง(53)" นักวิเคราะห์ กล่าว

ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า TVO ประกาศกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/52 ตามคาดที่ 302 ล้านบาท(0.44 บาท/หุ้น)ลดลง 34% จากไตรมาสก่อน(qoq)แต่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 920 ล้านบาทเพราะตั้งสำรองด้อยค่าสินค้าคงคลัง

บริษัทจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 13 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษนี้จะมีกำไรปกติที่ 289 ล้านบาท ลดลง 33% qoq กำไรอ่อนตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3/52 เพราะต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น อีกทั้งไตรมาส 3/53 มีรายได้พิเศษจากบริษัทย่อยในประเทศจีนจำนวนเกือบ 60 ล้านบาท ดังนั้น อัตรากำไรขั้นต้นจึงลดลงเหลือ 8.5% จากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 12.2%

รวมแล้ว TVO ทำกำไรสุทธิทั้งปี 52 ที่ 1,625 ล้านบาท(2.35 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้น 117% จากปีก่อน สาเหตุจากปี 51 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำช่วงปลายปี ทำให้บริษัทต้องตั้งด้อยค่าสินค้าคงเหลือ และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวในไตรมาสแรกปี 52 บริษัทก็บันทึกรายการด้อยค่ากลับมาทั้งหมด ดังนั้น หากพิจารณาเฉพาะไตรมาส 2—ไตรมาส 4 ที่การดำเนินงานเป็นปกติ จะเห็นว่าบริษัทสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยได้ตามเป้าหมายที่ 11.5%

ในปี 53 ยังคงคาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 10.8% เป็น 24,926 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ 11.6% ซึ่งจะได้ประมาณการกำไรปกติปี 53 ที่ 1,688 ล้านบาท (EPS fully dilute ที่ 2.10 บาท/หุ้น) โต 84%

สาเหตุหลักที่ผลักดันกำไรมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานใหม่ คาดว่าจะทดสอบเดินเครื่องในเดือน พ.ค.53และจะเริ่มขายเชิงพาณิชย์ได้ในงวดไตรมาส 3/53 ด้วยกำลังการผลิต 5,000 ตันถั่วเหลือง โดยบริษัทจะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากกากถั่วเหลืองนำเข้าในประเทศ ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองบริษัทจะขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นและส่งออกไปยังประเทศในเขต AFTA มากขึ้นด้วยเช่นกัน

"แนวโน้มงวดไตรมาส 1/53 คาดว่ากำไรจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าไตรมาส 4/52 จากต้นทุนสต็อกถั่วเหลืองที่เริ่มลดลง ขณะที่ราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองให้อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดังนั้นคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะกลับมาดี"บทวิเคราะห์ระบุ

นอกจากนี้ คาดว่า TVO จะประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.85 บาท ซึ่งจ่ายงวดครึ่งปีแรกแล้วที่ 0.95 บาท รวมทั้งปี 52 ที่ 1.80 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 10.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ