ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 757.85 จุด ลดลง 7.91 จุด(-1.03%)มูลค่าการซื้อขาย 24,138.72 ล้านบาท
การซื้อขายวันนี้ ดัชนีค่อนข้างผันผวนโดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 770.52 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 754.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 102 หลักทรัพย์ ลดลง 234 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 116 หลักทรัพย์
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายผันผวนค่อนข้างรุนแรงสลับบวกลบตามข่าวหลังกระแสข่าวความเป็นไปได้ในการเจรจารอบ 3 ทำให้ตลาดตอบรับด้วยการดีดตัวขึ้นมาได้บ้างจากที่ปิดติดลบในช่วงเช้า แต่ในที่สุดดัชนีก็ปรับลดลงหลังเรื่องดังกล่าวยังไม่ชัดเจน
ประกอบกับ วานนี้หุ้นปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 40 จุด แต่ต่างชาติกลับซื้อเพียง 50 ล้านบาท ผู้ซื้อรายใหญ่สุดกลายเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท ทำให้นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน วันนี้หากนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้าซื้อสุทธิ ก็คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ก็ยังคงลงต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้(22 เม.ย.)น่าจะผันผวนตามสถานการณ์การเมืองที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และต้องติดตามตัวเลขการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ หากวันนี้มี Flow ไหลเข้าก็เป็นโอกาสที่ตลาดหุ้นจะรีบาวน์กลับมาได้ และหากนักลงทุนต่างชาติยังไม่หันกลับมาซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นคงอยู่ใน downside
จุดที่ควรเข้าซื้อลงทุนเริ่มที่ระดับ 730-715 จุด ซึ่งเป็นต้นทุนของนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรอบก่อน หากดัชนีลงมาถึงระดับนั้นเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้ออีกครั้งด้วย
โดยกรอบการลงทุนสำหรับวันพรุ่งนี้ให้แนวรับที่ 750 แนวต้านที่ 770 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,984.61 ล้านบาท ปิดที่ 91.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,960.41 ล้านบาท ปิดที่ 255.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,678.92 ล้านบาท ปิดที่ 622.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,324.86 ล้านบาท ปิดที่ 15.80 บาท ลดลง 0.80 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,232.46 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท ลดลง 0.30 บาท