ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกปัญหายอดขาดดุลยุโรป ฉุดฟุตซี่ปิดร่วง 58.10 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 23, 2010 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่าประเทศยุโรปมียอดขาดดุลงบประมาณพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ของอังกฤษขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษและยุโรป

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 58.10 จุด หรือ 1% ปิดที่ 5,665.33 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายเงิน

โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ จากไอเอชเอส โกลบัล อินไซท์ กล่าวว่า การขยายตัวของยอดค้าปลีกเดือนมีนาคมที่น่าผิดหวังทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2553 นี้ เนื่องจากภาคครัวเรือนยังคงเผชิญปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่มีความท้าทาย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 6.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าสองเท่าของที่อียูกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 3% ของจีดีพี

ยูโรสแตทระบุว่า ไอร์แลนด์และกรีซเป็นประเทศที่มียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุดในยูโรโซน โดยไอร์แลนด์มียอดขาดดุลงบประมาณคิดเป็น 14.3% ของจีดีพี ขณะที่กรีซมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 13.6% ของจีดีพี

ส่วนหนี้สาธารณะรวมทุกรัฐบาลในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 78.7% ของจีดีพีในปีที่แล้ว จากระดับ 69.4% ในปี 2551


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ