TPC คาด 2 โครงการในมาบตาพุดเดินเครื่อง Q4/53, เชื่อรายได้ปี 53 โตได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 27, 2010 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC) คาดว่า โครงการลงทุนของบริษัททั้ง 2 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด น่าจะเริ่มเปิดเดินเครื่องได้ในไตรมาส 4/53 หลังจากแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เดินหน้าไปได้มากแล้ว

บริษัทประมาณการรายได้ในปี 53 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการผลิตพีวีซีเพิ่มขึ้น หลังจากเพิ่มกำลังการผลิตของ TPC ที่เวียดนามเป็น 2 แสนตัน/ปี จาก 1 แสนตัน/ปี ส่วนในอินโดนีเซียมีกำลังการผลิต 1 แสนตัน/ปี และ ในไทยมีกำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี รวมทั้งหมดบริษัทฯ มีกำลังการผลิตพีวีซีประมาณ 8 แสนตัน/ปี

ในไตรมาส 1/53 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 6,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,094 ล้านบาท คิดเป็น 20% โดยมีสัดส่วนเป็นการขายในประเทศ 85% และของบริษัทย่อยในต่างประเทศ 15% มีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/53 รวม 409 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 237 ล้านบาท คิดเป็น 37% โดยมีกำไรจากการดำเนินงานลดลงจากผลของราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้นมาก และค่าเงินบาทแข็งขึ้น

ภาพรวมของตลาดพีวีซีภูมิภาคเอเชียในไตรมาส 1/53 ราคาพีวีซีสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการสูงขึ้นหลังจากเผชิญปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในปี 51 ถึงต้นปี 52 ประกอบกับ ปัญหาสภาวะอากาศที่หนาวผิดปกติในประเทศจีน ทำให้มีปัญหาเรื่องการขนส่งและการผลิตภายในประเทศ ส่งผลให้อุปทานตึงตัว อีกทั้งราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาพีวีซีเฉลี่ยไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 966 ดอลลาร์/ตัน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซี่งมีราคาเฉลี่ย 639 ดอลลาร์/ตัน

ส่วนของราคาเอทธิลีนนั้น ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 1,265 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้น 638 ดอลลาร์/ตัน เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนราคาอีดีซีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 485 ดอลลาร์/ตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 166 ดอลลาร์/ตัน เนื่องจากราคาโซดาไฟ (NaOH) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้หลายโรงงานลดปริมาณการผลิตลงส่งผลให้อีดีซีมีอุปทานน้อยลง

สำหรับตลาดในประเทศไทย บริษัทฯ มียอดขายพีวีซีเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบข่วงเดียวกันของปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและความต้องการใช้พีวีซีในประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศมียอดขายพีวีซีลดลง 33% เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณพีวีซีจำกัดจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงงานวีซีเอ็มและพีวีซี และบริษัทให้ความสำคัญกับลูกค้าภายในประเทศก่อน

นายคเณศ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2/53 คาดว่า ปริมาณความต้องการใช้พีวีซีภายในประเทศอาจจะลดลงเล็กน้อยหลังจากผ่านฤดูการขายของธุรกิจประเภทท่อ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ราคาพีวีซีจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากวัตถุดิบยังคงมีราคาสูงตามราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าอุปทานพีวีซีในประเทศจีนจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีนและผู้ผลิตกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติ แต่วีซีเอ็มอาจจะมีสินค้าจำกัด เนื่องจากอยู่ในช่วงการปิดปรับปรุงประจำปีของโรงงานต่าง ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ