ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช้านี้ เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,121.85 จุด ลดลง 64.99 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดลบ 0.63% แตะ 2,571.54 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,624.17 จุด ลดลง 5.91 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,557.17 ลบ 1.99 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,778.27 บวก 3.73 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 0.5% แตะ 114.17 จุด เมื่อเวลา 9.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นนินเทนโด ร่วง 1.5% ส่วนหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ร่วง 2.1% ขณะที่หนังสือพิมพ์โตเกียว ชิมบุนรายงานว่า บริษัทจะเรียกคืนรถ Passo ในญี่ปุ่น ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บวก 0.7% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะดีมานด์พลังงานหดตัวในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 69.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.95 - 69.06 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า คำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลของเยอรมนีส่งผลให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับสถานการณ์ว่า จะออกมาแย่กว่าที่นักลงทุนคาดคิดหรือไม่ ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวและรายได้ภาคเอกชนก็ดีขึ้น นักลงทุนมองว่าตลาดหุ้นที่ร่วงลงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าช้อนซิ้อ