ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช้านี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยดัชนีดิ่งลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,823.84 จุด ลดลง 206.47 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดร่วง 2.48% แตะ 2,492.57 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,229.17 จุด ลบ 195.26 จุด ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,287.60 จุด ลดลง 28.90 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,695.51 ลบ 58.00 จุด
ตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ (21 พ.ค.) เนื่องในวันหยุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลบ 1.4% แตะ 111.78 จุด เมื่อเวลา 9.07 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นมาสด้า ร่วง 4.2% ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ส่วนหุ้นนินเทนโด ร่วง 2.4% และหุ้นเจแปน ปิโตรเลียม เอ็กซ์พลอเรชั่น ร่วง 2.4% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจะฉุดรั้งดีมานด์พลังงานให้อ่อนแอลงด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.66% มาปิดที่ระดับ 68.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 64.24 - 71.29 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากที่เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป ขณะที่ยังไม่เห็นทางแก้ที่ชัดเจนสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น