โบรกฯ แนะ"ซื้อ"RCL คาดเริ่มพลิกเป็นกำไรใน Q2/53 จากแนวโน้มธุรกิจฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 24, 2010 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อาร์ ซี แอล(RCL) มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจเรือขนส่งประเภทบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อย่างมีนัยสำคัญ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ทำให้การขนส่งสินค้าคึกคักขึ้น โดยเฉพาะผลจากการเปิดเสรีทางการค้าในอาเซียนบวกกับจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปที่ประเทศจีน รวมทั้งค่าระวางเรือที่ปรับตัวดีขึ้น

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า RCL ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1/53 ที่ยังมีผลประกอบการขาดทุน โดยจะเริ่มพลิกมีกำไรสุทธิตั้งแต่ไตรมาส 2-3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ทั้งปีมีกำไร เนื่องมาจากแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จมองภาระบริษัทลดลง

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ทรีนิตี้               ซื้อ                  16.00
          บล.นครหลวงไทย         ซื้อ                  15.00
          บล.ยูไนเต็ด          ซื้อเมื่ออ่อนตัว             14.50
          บล.เอเซียพลัส           ซื้อ                  17.00

นายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัสบล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ปรับประมาณการราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 17.00 บาท โดยยังมีอัพไซต์กว่า 30% หลังการเพิ่มทุน เนื่องจากช่วยให้ดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนของบริษัทลดลง

ขณะที่จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารล่าสุดพบว่าธุรกิจของ RCL มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนจากยอดนำเข้า-ส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียได้ฟื้นตัวดีเกินคาด รวมทั้ง อัตราค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ยังมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จาก Howe Robinson Container Index(HRCI) ซึ่งเป็นตัวแทนอัตราค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 438.8 จุด

ฝ่ายวิจัยมั่นใจว่า RCL ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและคาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ รวมถึงผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าทั้งปี 53 จะมีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท แม้ช่วงครึ่งปีแรกยังคงขาดทุนอยู่ แต่แนวโน้มบริษัทฟื้นตัวอย่างชัดเจน

รวมทั้งค่าระวางเรือได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยจากการที่เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตได้ดี การขนส่งทางเรือดีตามด้วย แต่อาจมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัวมากระทบบ้าง แต่ถือว่าน้อยสำหรับ RCL เพราลูกค้าหลักอยู่ในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ จะเห็นได้ตัวเลขการขนส่งช่วงเดือนเม.ย.โตถึง 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับมูลค่าทางบัญชีของ RCL ณ สิ้นปี 53 ขยับขึ้นมา 2.4% มาอยู่ที่ 17 บาท บวกกับ Howe Robinson Index ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ และทำให้ฝ่ายวิจัยมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ RCL ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังฟื้นตัว

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อ"หุ้น RCL ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.0 บาท/หุ้น จากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์โดยรวมให้ไว้ที่ 15.00 บาท ทั้งนี้ การให้ราคาเป้าหมายดังกล่าวเป็นการปรับประมาณการจากเดิมที่ 10.00 บาท และคำแนะนำเดิมคือ “ขาย"

แม้ผลประกอบการ RCL ไตรมาส 1/53 จะขาดทุน แต่เชื่อว่าปี 54 กำไรจะเติบโตได้ 400% เนื่องจากคาดว่าตลาดเรือคอนเทนเนอร์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว สังเกตได้จากค่าระวางเรือที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับและไม่ผันผวน เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศในเอเซียอย่างจีนหรืออินเดียที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของไทยยังเติบโตได้ดี และหลังจากการเพิ่มทุนในอัตรา 4 ต่อ 1 ที่ราคา 12 บาท จะช่วยให้ D/E ลดลงเหลือ 0.9 เท่า จากเดิม 1.4 เท่า

การที่ไตรมาส 1/53 ยังคงขาดทุน เนื่องมาจากตลาดเรือคอนเทนเนอร์ยังอยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัว ทำให้ค่าเฉลี่ยของดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 357 จุด สูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาสก่อนที่ 333 จุดเล็กน้อย โดยเราคาดว่าค่าระวางเรือของ RCL ในไตรมาส 1/53 นี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 178 เหรียญฯ ต่อ TEU เทียบกับต้นทุนขนส่งที่ประมาณ 168 เหรียญฯ ต่อ TEU จะมีอัตรากำไรขึ้นต้นประมาณ 6% ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุนที่ 10% ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 1/53 ยังขาดทุนอยู่

แต่คาดว่าปริมาณขนส่งในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยได้รับปัจจัยบวกเขตการค้าเสรีอาเซียนบวกกับงานเอ็กซ์โปที่เซียงไฮ้ ซึ่งการค้าระหว่างไทยกับอาเซียนในไตรมาส 1/53 ขยายตัวถึง 44% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ประกอบกับ ปริมาณเรือคอนเทนเนอร์ในตลาดรวมทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4,500 ลำ ในขณะที่จำนวนเรือคอนเทนเนอร์ต่อใหม่มีแนวโน้มลดลง ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงน้อยเมื่อเทียบกับตลาดเรือเทกองที่มีแนวโน้มการสั่งต่อเรือในตลาดเพิ่มขึ้น

ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย(SCRI) คาดว่า RCL มีแนวโน้มผลการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ในงวด Q2/53 ผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับตามภาวะอุตสาหกรรมเดินเรือ โดยจะเห็นได้จากปริมาณการขนส่งของ RCL ในงวด Q1/53 เพิ่มขึ้น 7.1% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่อยู่ในช่วง Down Trend

จากดัชนี HRCI ประเมินว่าค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแล้วประมาณ 39.8% YTD เป็น 466.7 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนี HRCI สูงสุดของปีอยู่ที่ 500-550 จุด โดยประเมินว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้ปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับแรงกระตุ้นจากจีน

SCRI คาดแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯจะทำให้ผลการดำเนินงานของ RCL งวด Q2/53 ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องและจะมีโอกาสพลิกจากขาดทุนสุทธิเป็นกำไรสุทธิได้อย่างชัดเจนในงวด Q3/52 ที่เป็นช่วง High Season ของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และแม้ว่าผลการดำเนินงานของ RCL งวด Q1/53 จะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ 341 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจากงวดเดียวของปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 700 ล้านบาท เห็นได้ชัดเจนว่ามีสัญญาณการฟื้นตัว คาดว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะเป็น Up Trend ต่อจากนี้

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ยูไนเต็ด มองว่าค่าระวางเรือที่ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมกับการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่เซี่ยงไฮ้ของจีนในช่วง 1 พ.ค.- 31 ต.ค.นี้ จะช่วยกระตุ้นยอดการขนส่งให้กลับมาขยายตัวได้ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ส่วนนี้จะเป็นตัวช่วยหนุนรายได้ของ RCL ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเรายังคงประมาณการณ์ว่าปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไร โดยคาดที่ 577 ล้านบาท (EPS 0.70 บาท/หุ้น)

ทั้งนี้ RCL จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีอัตราการจองซื้อ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 12 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันขึ้น XR วันที่ 12 พ.ค.53 และกำหนดจองซื้อวันที่ 31 พ.ค.-4 มิ.ย.53 ราคาเหมาะสมหลังการเพิ่มทุนที่ 14.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ