โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อาร์ ซี แอล(RCL) มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจเรือขนส่งประเภทบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อย่างมีนัยสำคัญ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ทำให้การขนส่งสินค้าคึกคักขึ้น โดยเฉพาะผลจากการเปิดเสรีทางการค้าในอาเซียนบวกกับจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปที่ประเทศจีน รวมทั้งค่าระวางเรือที่ปรับตัวดีขึ้น
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า RCL ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1/53 ที่ยังมีผลประกอบการขาดทุน โดยจะเริ่มพลิกมีกำไรสุทธิตั้งแต่ไตรมาส 2-3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ทั้งปีมีกำไร เนื่องมาจากแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จมองภาระบริษัทลดลง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 16.00 บล.นครหลวงไทย ซื้อ 15.00 บล.ยูไนเต็ด ซื้อเมื่ออ่อนตัว 14.50 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 17.00นายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัสบล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ปรับประมาณการราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 17.00 บาท โดยยังมีอัพไซต์กว่า 30% หลังการเพิ่มทุน เนื่องจากช่วยให้ดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนของบริษัทลดลง
ขณะที่จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารล่าสุดพบว่าธุรกิจของ RCL มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนจากยอดนำเข้า-ส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียได้ฟื้นตัวดีเกินคาด รวมทั้ง อัตราค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ยังมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จาก Howe Robinson Container Index(HRCI) ซึ่งเป็นตัวแทนอัตราค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 438.8 จุด
ฝ่ายวิจัยมั่นใจว่า RCL ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและคาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ รวมถึงผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าทั้งปี 53 จะมีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท แม้ช่วงครึ่งปีแรกยังคงขาดทุนอยู่ แต่แนวโน้มบริษัทฟื้นตัวอย่างชัดเจน
รวมทั้งค่าระวางเรือได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยจากการที่เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตได้ดี การขนส่งทางเรือดีตามด้วย แต่อาจมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัวมากระทบบ้าง แต่ถือว่าน้อยสำหรับ RCL เพราลูกค้าหลักอยู่ในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ จะเห็นได้ตัวเลขการขนส่งช่วงเดือนเม.ย.โตถึง 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับมูลค่าทางบัญชีของ RCL ณ สิ้นปี 53 ขยับขึ้นมา 2.4% มาอยู่ที่ 17 บาท บวกกับ Howe Robinson Index ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ และทำให้ฝ่ายวิจัยมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ RCL ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังฟื้นตัว
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อ"หุ้น RCL ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.0 บาท/หุ้น จากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์โดยรวมให้ไว้ที่ 15.00 บาท ทั้งนี้ การให้ราคาเป้าหมายดังกล่าวเป็นการปรับประมาณการจากเดิมที่ 10.00 บาท และคำแนะนำเดิมคือ “ขาย"
แม้ผลประกอบการ RCL ไตรมาส 1/53 จะขาดทุน แต่เชื่อว่าปี 54 กำไรจะเติบโตได้ 400% เนื่องจากคาดว่าตลาดเรือคอนเทนเนอร์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว สังเกตได้จากค่าระวางเรือที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับและไม่ผันผวน เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศในเอเซียอย่างจีนหรืออินเดียที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของไทยยังเติบโตได้ดี และหลังจากการเพิ่มทุนในอัตรา 4 ต่อ 1 ที่ราคา 12 บาท จะช่วยให้ D/E ลดลงเหลือ 0.9 เท่า จากเดิม 1.4 เท่า
การที่ไตรมาส 1/53 ยังคงขาดทุน เนื่องมาจากตลาดเรือคอนเทนเนอร์ยังอยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัว ทำให้ค่าเฉลี่ยของดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 357 จุด สูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาสก่อนที่ 333 จุดเล็กน้อย โดยเราคาดว่าค่าระวางเรือของ RCL ในไตรมาส 1/53 นี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 178 เหรียญฯ ต่อ TEU เทียบกับต้นทุนขนส่งที่ประมาณ 168 เหรียญฯ ต่อ TEU จะมีอัตรากำไรขึ้นต้นประมาณ 6% ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุนที่ 10% ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 1/53 ยังขาดทุนอยู่
แต่คาดว่าปริมาณขนส่งในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยได้รับปัจจัยบวกเขตการค้าเสรีอาเซียนบวกกับงานเอ็กซ์โปที่เซียงไฮ้ ซึ่งการค้าระหว่างไทยกับอาเซียนในไตรมาส 1/53 ขยายตัวถึง 44% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ประกอบกับ ปริมาณเรือคอนเทนเนอร์ในตลาดรวมทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4,500 ลำ ในขณะที่จำนวนเรือคอนเทนเนอร์ต่อใหม่มีแนวโน้มลดลง ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงน้อยเมื่อเทียบกับตลาดเรือเทกองที่มีแนวโน้มการสั่งต่อเรือในตลาดเพิ่มขึ้น
ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย(SCRI) คาดว่า RCL มีแนวโน้มผลการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ในงวด Q2/53 ผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับตามภาวะอุตสาหกรรมเดินเรือ โดยจะเห็นได้จากปริมาณการขนส่งของ RCL ในงวด Q1/53 เพิ่มขึ้น 7.1% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่อยู่ในช่วง Down Trend
จากดัชนี HRCI ประเมินว่าค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแล้วประมาณ 39.8% YTD เป็น 466.7 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนี HRCI สูงสุดของปีอยู่ที่ 500-550 จุด โดยประเมินว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้ปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับแรงกระตุ้นจากจีน
SCRI คาดแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯจะทำให้ผลการดำเนินงานของ RCL งวด Q2/53 ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องและจะมีโอกาสพลิกจากขาดทุนสุทธิเป็นกำไรสุทธิได้อย่างชัดเจนในงวด Q3/52 ที่เป็นช่วง High Season ของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และแม้ว่าผลการดำเนินงานของ RCL งวด Q1/53 จะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ 341 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจากงวดเดียวของปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 700 ล้านบาท เห็นได้ชัดเจนว่ามีสัญญาณการฟื้นตัว คาดว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะเป็น Up Trend ต่อจากนี้
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ยูไนเต็ด มองว่าค่าระวางเรือที่ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมกับการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่เซี่ยงไฮ้ของจีนในช่วง 1 พ.ค.- 31 ต.ค.นี้ จะช่วยกระตุ้นยอดการขนส่งให้กลับมาขยายตัวได้ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ส่วนนี้จะเป็นตัวช่วยหนุนรายได้ของ RCL ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเรายังคงประมาณการณ์ว่าปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไร โดยคาดที่ 577 ล้านบาท (EPS 0.70 บาท/หุ้น)
ทั้งนี้ RCL จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีอัตราการจองซื้อ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 12 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันขึ้น XR วันที่ 12 พ.ค.53 และกำหนดจองซื้อวันที่ 31 พ.ค.-4 มิ.ย.53 ราคาเหมาะสมหลังการเพิ่มทุนที่ 14.50 บาท