โบรกฯแนะ"ซื้อ"STANLY คาดงวดปี 54 กำไรโต 14-29% รับผลดียอดผลิตรถยนต์สูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 27, 2010 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า(STANLY)คาดว่ากำไรของบริษัทในงวด เม.ย.53- มี.ค. 54 ในช่วง 1,078-1,217 ล้านบาท เติบโต 14-29% จากปีก่อนทีมีกำไรสุทธิ 957 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/53 ที่มีกำไรดีเกินคาด

ทั้งนี้ เป็นผลจากอุตสหกรรมรถยนต์เติบโตอย่างมากจากปีก่อน โดยประเมินว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้จะสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 1.4 ล้านคัน เป็น 1.5-1.6 ล้านคัน ขณะที่บริษัทยังได้รับออเดอร์ใหม่ต่อเนื่อง และสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี จากเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งบริษัทไม่มีภาระหนี้สิน ทำให้ฐานะทางการเงินมั่นคง

STANLY ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/53 หรือ งวด ม.ค. - มี.ค. 53 มีกำไรที่โดดเด่นถึง 370 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 4.82 บาท) เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อน และ 487% จากปีก่อน

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ        ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เอเซียพลัส         ซื้อ               182.87
          บล.ธนชาต            ซื้อ               166.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา       ซื้อ               161.20
          บล.กิมเอ็ง            ซื้อ               160.00
          บล.เคจีไอ            ซื้อ               156.00
          สถาบันวิจัยนครหลวงไทย  ซื้อ               135.00

นักวิเคราะห์จากบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น STANLY ได้รับอานิสงส์จากภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตดีต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ใหม่ว่าในปีนี้จะมียอดผลิตรถยนต์ในประเทศราว 1.5-1.6 ล้านคัน จากเดิมคาดไว้ 1.4 ล้านคัน ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้รับผลดีและเติบโตตามอุตสาหกรรม

STANLY เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/53 (สิ้นสุดมี.ค.53) ออกมาดีกว่าคาด และคาดว่ากำไรในงวดปี 54 (เม.ย.53-มี.ค.54) จะเติบโต 25% เป็น 1,193 ล้านบาท นอกจากนี้ ในงวด เม.ย.52 - มี.ค.53 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 5 บาท

ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อน จนถึงไตรมาสแรกปีนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการของ STYANLY ในงวดไตรมาส 4/53 ทำนิวไฮ และคาดว่าในงวดปี 54 ผลประกอบการของ STANLY จะดีขึ้นตามอุตสาหกรรมโดยรวมปีนี้ดีขึ้น และ บริษัทได้ออเดอร์ใหม่ จากรถยนต์มาสด้า 2 ทั้งรุ่น 4 ประตุ และรุ่น 5 ประตู และ นิสสัน มาร์ช รวมทั้งมีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรงวดปี 54 ที่ 1,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และบริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผล 5 บาทต่อหุ้นเท่ากับปี 51 ทั้งที่กำไรในปี 53 ต่ำกว่าปี 52 แต่เพราะบริษัทมีฐานะการเงินที่ดีและมีเงินสดเพียงพอจะจ่ายปันผลได้

"STANLY น่าซื้อที่อุตสาหกรรมภาพรวมฟื้นตัว และบริษัทมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ประมาณการกำไรปีนี้สูงกว่าปีก่อน 14% และฐาะนการเงินปลอดภัย ไม่มีหนี้ และเงินสดในมือ 2.8 พันล้านบาท แต่ก็มีข้อเสียที่หุ้นไม่ค่อยมีสภาพคล่องอาจซื้อขายยาก" นักวิเคราะห์กล่าว

บทวิเคราะห์ของ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองแนวโน้มผลประกอบการของ STANLY งวดปี 54(เม.ย.53-มี.ค.54)จะยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ หากนำตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 381,860 คัน มาคำนวณเป็นรายปีก็คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในปีนี้อาจสูงถึง 1.53 ล้านคัน หรือเติบโต 53% จากปีก่อน 53% มากกว่าสถาบันยานยนต์ประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปี 53 เท่ากับ 1.4 ล้านคัน เติบโตจากปีก่อน 40%

ดังนั้น ประเมินยอดขายปี 54 เท่ากับ 8,300 ล้านบาท เติบโต 15% นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และ ลดของเสีย จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 22.2% เทียบกับ 21.1% ในปีก่อน และจะทำให้กำไรโดดเด่นถึง 1,217 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 15.89 บาท) เพิ่มขึ้น 29%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ