DCON หาซื้อที่ดินพัฒนา2-3โครงการปี 54,มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า20-30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 11, 2010 11:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ดีคอนโปรดักส์ชั่น(DCON)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทกำลังมองหาซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์"อารดาแลนด์"อย่างน้อย 2-3 โครงการในปี 54 จากปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการ 2 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า

สำหรับผลประกอบการในปี 53 บริษัทยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 20-30% หรือคิดเป็นรายได้รวมประมาณ 600-700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 500 ล้านบาท แม้มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาจะส่งผลให้การขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าลำบากจากผลกระทบที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว แต่ก็เป็นแค่ผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น เพราะบริษัทได้มีการปรับวิธีการส่งสินค้าให้เร็วขึ้น

"ช่วง เม.ย.-พ.ค.จะเป็นช่วงวันหยุดเยอะ มีฝนตก แต่ยอดขายวัสดุก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมากลับปรับตัวดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่กลับมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และมาตรการการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ และในไตรมาส 4 ก็จะมากขึ้นเพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ"นายวิทวัส กล่าว

จากยอดขายวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มเติบโต เชื่อว่าจะสร้างรายได้ในส่วนของวัสดุก่อสร้างในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท จากเดิม 450 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเร่งเพิ่มยอดขาย โดยเฉพาะสินค้าที่ขายดี อย่างเช่น แผ่นพื้นสำเร็จรูป และ เสาคาน รวมถึงการออกสินค้าใหม่ และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะคอนกรีตมวลเบาที่เป็นสีขาวมาเป็นคอนกรีตมวลเบาที่เป็นสีเทา ซึ่งมีต้นทุนลดลงแต่คุณภาพยังคงดีเหมือนเดิม

การลดต้นทุนด้านวัตถุดิบลงดังกล่าวยังทำให้บริษัทขายสินค้าในราคาที่ถูกลง จากที่เคยขายคอนกรีตมวลเบา 17-18 บาท/ก้อน เชื่อว่าจะส่งผลยอดขายคอนกรีตมวลเบาเพิ่มขึ้นเป็น 5-6 ล้านบาท/เดือนภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 9-10 ล้านบาท/เดือนในช่วงกลางปี 54 จากปัจจุบันมียอดขาย 3 ล้านบาท/เดือน

นายวิทวัส กล่าวว่า บริษัทมีความเป็นห่วงสภาพคล่องของหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์(ฟรีโฟลต)ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่ 16% ถือว่าใกล้เกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กำหนด 15%

ดังนั้น บริษัทจึงมองหาแนวทางการเพิ่มฟรีโฟลต ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจให้เติบโตเพื่อสร้างความน่าสนใจจูงใจนักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้น เพราะการที่ราคาหุ้นบริษัทที่เคลื่อนไหวในช่วง 2-3 บาท/หุ้น ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (book value) ที่ 3.50 บาท/หุ้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการขายหุ้นออกมาเพื่อจะเพิ่มฟรีโฟลต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ