หุ้น STEC ราคาวิ่งขึ้น 4.10% มาอยู่ที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 54.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.32 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.45 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.25 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ แนะ"ซื้อลงทุน"หุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC)เป็นบริษัทที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรับเหมา ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการเติบโตและทำกำไร, ความแข็งแกร่งของงบดุล ทำให้มองว่า STEC น่าจะได้รับความสนใจมากที่สุดในกลุ่ม ประเมินมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของ STEC ได้ที่ 7.77 บาท โดยอิง Prospective PER ที่ 18 เท่า
จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ“ไทยเข้มแข็ง"รวมถึงความพยายามที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางในกทม.จากทางภาครัฐ ทำให้ต้องมีการลงทุนก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยล่าสุดมีการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ STEC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาที่มีศักยภาพในการรับงานขนาดใหญ่ ก็สามารถคว้างานประมูลมาได้เพิ่มอีกหนึ่งสัญญา ส่งผลให้ฐาน Backlog ของ STEC ขยายตัวโดดเด่น ซึ่งล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 34.7 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของบริษัท
แม้ฐาน Backlog ที่ค่อนข้างมาก จะเป็นตัวช่วยสร้างความเชื่อมั่นในต่อทิศทางรายได้ของบริษัทในอนาคตก็ตาม แต่เนื่องจากเหตุการณ์อันไม่สงบในช่วงที่ผ่านมารวมถึงความล่าช้าในการเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้การรับรู้รายได้ในช่วงต้นปี 53 ดูจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้รวมทั้งปีเราคาดหมายรายได้ของ STEC ปี 53 จะลดลงราว 10%YoY
อย่างไรก็ตาม หากดูที่กำไรสุทธิจะพบว่าคาดหมายกำไรสุทธิปี 53 ของ STEC จะเติบโตกว่า 40% ซึ่งเป็นผลมาจากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนเครื่องจักรที่ถูกตัดค่าเสื่อมไปหมดแล้ว ช่วยหนุนการฟื้นตัวของ GPM ซึ่งจาก Backlog ที่สูงและโครงสร้างต้นทุนที่ได้เปรียบ จะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันกำไรสุทธิของ STEC ในปี 53-55