บทวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส คาดว่า นโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการควบคุมเงินเฟ้อในประเทศมิให้สูงเกินไป ล่าสุดมีแนวโน้มอาจมีมาตรการคุมเข้มราคาถ่านหินในประเทศ โดยจะกำหนดราคาเพดานสูงสุด(Ceiling price) ด้วยการอ้างอิงราคาขายในตลาดในขณะนั้น โดยการกำหนดช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเช่น 3 หรือ 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ยังมิได้มีการกำหนดรายละเอียด
มาตรการดังกล่าวเป็นการจำกัดโอกาสการปรับขึ้นของราคาถ่านหินในประเทศจีน จะกระทบต่อผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายถ่านหินในจีน โดยเฉพาะ BANPU ปัจจุบันได้ลงทุนธุรกิจถ่านหินในจีน 2 แห่ง ผ่านบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ Danning ถือหุ้น56% และใน HEBI 40% มีกำลังการผลิตรวม 3.2 ล้านต้น หรือคิดเป็นราว 12.3% ของกำลังการผลิตถ่านหินของ BANPU ทั้งหมด 26 ล้านตัน โดย 23 ล้านตันที่เหลืออยู่ในประเทศอินโดนีเซีย
แต่อย่างไรก็ตาม สมมติฐานของ ASP นั้นได้ใช้ราคาถ่านหินที่ค่อนข้างระมัดระวังคือเฉลี่ย 75 เหรียญฯต่อตันในปีนี้ และ 80 เหรียญฯต่อตันในปี 54 (เพิ่มขึ้นจาก 72 เหรียญฯในปี 52) เทียบกับราคาตลาดที่เฉลี่ยราว 90 เหรียญฯต่อตัน(คำนวณโดยมีส่วนลด 25% จากราคาถ่านหินอ้างอิงในจีนที่ 113.4 เหรียญฯต่อตันในปัจจุบัน)
ดังนั้น จึงคาดว่าจะกระทบต่อประมาณการกำไรของ BANPU ไม่มากนัก (กำไรจากประเทศจีนคิดเป็นเพียง 10% ของกำไรทั้งหมด) แต่น่าจะกดดันต่อราคา BANPU ในระยะสั้น โดยมีโอกาสที่ราคาหุ้น BANPU จะหลุดลงไปต่ำกว่า 600 บาทอีกครั้ง นักลงทุกระยะกลางและยาวแนะนำซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว
ทั้งนี้ ราคาหุ้น BANPU ปิดวานนี้ที่ 618 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท (+0.32%)