MAJORคาดกำไรปี 53โตกว่า 10% เตรียมขยายกองทุนอสังหาฯ900-1.1 พันลบ.ใน Q3

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 2, 2010 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา พูลวรลักษณ์ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) คาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้น่าจะเติบโตได้มากกว่าอัตราเติบโตของรายได้ที่คาดว่าไว้ที่ 10% โดยเป็นการเติบโตทุกธุรกิจในเครือ และโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/53 บริษัทมีแผนจะขยายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF)อีก 900-1,100 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขายโครงการซูซูกิอเวนิว รัชโยธิน เข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุน

"อยากให้กองทุนโตขึ้นไปเรื่อย ๆ ไปถึงหมื่นล้านได้ก็ดี ความต้องการซื้อตอนนี้สูงมาก พร้อพเพอร์ตี้ฟันด์ในตลาดดีเกือบทุกตัว Yield 8-9% ตอนนี้ประเทศไทยเงินล้น เชื่อว่าอินเวสเตอร์จะชอบและตื่นเต้นกับกองทุนนี้"นายวิชา กล่าว

ทั้งนี้ โครงการซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน มีสิทธิการเช่าที่ดินจำนวน 3 โฉนด เนื้อที่รวม 9 ไร่ มูลค่า 1,150 ล้านบาท ขณะที่มูลค่ากองทุนเดิมอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งการมีโครงการซูซุกิ อเวนิวฯ เป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง น่าสนใจกว่าโรงแรมหรืออาคารสำนักงานธรรมดา

นายวิชา กล่าวว่า สัดส่วนกำไรของบริษัทมาจากธุรกิจหลัก 80% และอื่น ๆ อีก 20% ซึ่งทั้งสองส่วนเติบโตขึ้นมาใกล้เคียงกัน ขณะที่สัดส่วนรายได้รวมในปีนี้มาจากภาพยนตร์ 50% มีเดีย 10% โบว์ลิ่ง 10% รีเทล 10% และที่เหลือเป็นรายได้อื่น ๆ

ช่วงไตรมาส 2/53 รายได้ในส่วนของภาพยนตร์ดีกว่าปีก่อน 10% ซึ่งถือว่าดีมาก ท่ามกลางสถานการณืความไม่สงบทั้งการประกาศเคอร์ฟิวส์และการปิดสาขาในบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งปัญหามากกว่าปีก่อน เนื่องจากในช่วงดังกล่าวยอดรายได้ของสาขาเอสพลานาดเติบโตเป็นเท่าตัว รวมทั้งสาขาเอกมัยและพระราม 3 ก็เติบโตดีมากเช่นกัน

ขณะที่ในเดือนมิ.ย.53 ยอดชมภาพยนตร์อาจจะลดลง 10% เพราะปีก่อนเป็นช่วงที่หนังทรานฟอร์เมอร์ 2 เข้าฉาย และในช่วงนี้ก็มีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ยอดชมภาพยนตร์ในช่วงค่ำและดึกตกไปเล็กน้อย แต่ทั้งไตรมาสก็ยังเติบโตได้ดี

นอกจากนั้น ยังคาดว่าไตรมาส 3/53 กำไรของบริษัทจะเติบโตได้ดี โดยเฉพาะจากการขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นยังมีหนังฟอร์มใหญ่ที่เข้าฉาย คือ "ทไวไลท์ : อีคลิปส์" ที่ฉายวันแรก 1 ก.ค.ตัวเลขก็ออกมาดีมาก และยังมีหนังฟอร์มยัการอเข้าฉายต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/53 ทั้งหนังภาคใหม่ของแฮรี่พอตเตอร์, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ นาเนีย ซึ่งจะทำให้รายได้ออกมาค่อนข้างแข็งแรง

นายวิชา กล่าวอีกว่า บริษัทเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ ที่มหาชัย สระบุรี พาราไดซ์ปาร์ค สามเสน ซึ่งอยู่ภายใต้งบลงทุนปีนี้ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการลงทุในประเทศอินเดียด้วย โดยบริษัทยังมีแผนจะขยายการถือหุ้นธุรกิจในอินเดียเพิ่มจาก 10% ในปัจจุบัน หากกฎหมายของทางการอินเดียเปิดทาง

"บริษัทคงไม่คิดถือแค่ 10% เราอยากเข้าไปถือเพิ่ม แต่กฎหมายของอินเดียยังต้องใช้เวลาต้องเพิ่มเป็นสเต็ป อยากจะถือในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้มีอำนาจในการบริหาร ต้องการ 20% หากกฎหมายเปิดทาง"นายวิชา กล่าว

ส่วนในปี 54 มีแผนเพิ่มโรงหนังอีก 30 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด อย่างละครึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาทำเล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ