ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกได้บดบังการพุ่งขึ้นของหุ้นบีพี หลังจากทางการสหรัฐและจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว รวมถึงตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ และดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 14.56 จุด แตะที่ 4823.53 จุด
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลังจากสมาพันธ์ลอจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตในประเทศจีน อยู่ที่ระดับ 52.1 จุดในเดือนมิ.ย. ลดลง 1.8% จากเดือนพ.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.2 จุด
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนมิถุนายน ปรับตัวลดลง 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง 110,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิถุนายนลดลงสู่ระดับ 9.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 2.2% หุ้นริโอทินโต กรุ๊ป ปิดลบ 1.8% หุ้นแอฟริกัน แบร์ริค โกลด์ ปิดร่วง 2.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติของธนาคารยุโรปในเดือนนี้ โดยหุ้นบาร์เคลย์สปิดร่วง 2.9% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 2.8%
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 3.5% แม้บีพีเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเหตุการณ์น้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก ได้เพิ่มขึ้นแตะ 3.12 พันล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมถึงการควบคุมการรั่วไหลของน้ำมัน การทำความสะอาดคราบน้ำมันที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณ และการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้
รัฐบาลอังกฤษได้สั่งการให้กระทรวงต่างๆ วางแผนลดงบประมาณการใช้จ่ายลงให้ได้มากถึง 40% ขณะที่นายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษพยายามหาลู่ทางที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้
คณะรัฐบาลผสมระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน กำลังผลักดันให้มีการลดงบประมาณรายจ่ายและขึ้นภาษี เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1.13 แสนล้านปอนด์ (1.72 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณลงจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงถึง 11% ของจีดีพี โดยนายออสบอร์นจะกำหนดงบประมาณสำหรับแต่ละกระทรวงในระหว่างการทบทวนงบประมาณการใช้จ่ายในเดือนต.ค.นี้
สำนักงานรับผิดชอบงบประมาณ (Office for Budget Responsibility : OBR) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งใหม่ของอังกฤษ ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นขยายตัว 2.6% ในปี 2554 ซึ่งลดลงจากระดับ 3.25% ที่รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ จากพรรคแรงงานได้ประเมินไว้