SET ภาคเช้าปิดที่ 823.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด (0.76 %)มูลค่าการซื้อขาย 14,614.23 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้บวกเล็กน้อย ตลาดฯยังเป็นห่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ-ยุโรป แต่ได้ปัจจัยหนุนเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/53 และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง. คาดตลาดช่วงบ่ายแกว่งตัวในแดนบวกแคบๆ พร้อมให้แนวรับในช่วง 815 จุด แนวต้าน 827 จุด โดยแนะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 823.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด (0.76 %)มูลค่าการซื้อขาย 14,614.23 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้าแต่เป็นในลักษณะแกว่งตัวแคบและมีการเทขายทำกำไรเป็นช่วง ๆ จึงทำให้ปรับบวกได้ไม่มาก โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 825.40 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 820.24 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในแดนบวกแต่ขึ้นไปไม่มาก เป็นการลงทุนจากรับข่าวความคาดหวังผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐที่คาดว่าจะออกมาดี และหลังจากที่ทางอินเทลเปิดเผยผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2/53 อีกทั้งสิงคโปร์ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หนุนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวก
แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นแรงกดดันอยู่ เพราะยังไม่เห็นความชัดเจนในการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดปรับตัวได้แต่ไม่มากและทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไร
ทั้งนี้ ในส่วนตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงค์จากตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับขึ้นตาม แต่การปรับขึ้นก็ไม่ได้มาก เพราะยังมีประเด็นที่รอดูอยู่ทั้งในเรื่อง กนง.ที่คาดว่าจะมีปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มแบงก์ แต่จะกดดัน บจ.ให้มีต้นทุนสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ดังกล่าวคงไม่มีผลต่อตลาดมากนัก เพราะตลาดได้รับข่าวดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งคดียุบพรรคปชป.
การลงทุนในช่วงนี้จะเป็นลักษณะการลงทุนสั้นและเลือกหุ้นเก็งกำไรเป็นรายตัวจนกว่าจะเห็นภาพชัดเจน ทั้งในเรื่องภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป โดยเฉพาะยุโรปที่มีการตรวจสอบคุณภาพของกลุ่มแบงก์ว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจได้หรือไม่หากเศรษฐกิจมีปัญหา ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ให้ระมัดระวังโดยหากหุ้นปรับขึ้นสูงก็แนะนำให้ขาย
"ช่วงนี้ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพราะขึ้น ๆ ลง ๆ และจะเห็นภาพเก็งกำไรไปเรื่อยๆ จนกว่าภาพทุกอย่างจะชัดเจนถึงจะกลับมาลงทุน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดโดยรวมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทำให้กรอบการขึ้นเป็นไปอย่างค่อนข้างจำกัด"นักวิเคราะห์ กล่าวแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายมองว่าดัชนีอาจผันผวนในกรอบจำกัด ยังคงเก็งกำไรและเลือกลงทุนเป็นรายตัว โดยแนะให้เลือกลงทุนหุ้นที่มีความปลอดภัย อย่างหุ้นที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล และหุ้นที่เก็งผลประกอบการออกมาดี อย่าง SCB BBL TTW MCOT AIT เป็นต้น ให้แนวรับในช่วง 815 จุด แนวต้าน 827 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,849.82 ล้านบาท ปิดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,179.81 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 562.90 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 551.17 ล้านบาท ปิดที่ 0.69 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 442.41 ล้านบาท ปิดที่ 0.89 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท