ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงเล็กน้อยตามสหรัฐ ลุ้นแบงก์-อสังหาฯ ช่วยหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 16, 2010 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวกรอบแคบ ๆ ท่ามกลางการเก็งกำไรและเลือกเล่นหุ้น กลุ่มแบงก์-อสังหาฯ โดดเด่นหลังงบแบงก์ทยอยออกคาดส่วนใหญ่ออกมาดีช่วยพยุงดัชนีตลาดหุ้นไทย แม้มีปัจจัยต่างประเทศจากการผลิตของสหรัฐที่ไม่เป็นอย่างคาดยังกดดันอยู่ โดยตลาดฯคงจะเป็นลักษณะของการเก็งกำไรในระยะสั้นในหุ้นขนาดกลางและเล็กเป็นรายตัว พร้อมให้แนวรับที่ 815 จุด แนวต้าน 825 จุด

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ บล.เคจีไอ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้อาจปรับตัวลดลง แต่เป็นระดับที่ไม่แรงมาก เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบหลังจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังอ่อนแอ ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลในเชิงจิตวิทยาในเชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ประเด็นปัญหาน้ำมันรั่วของ BP ที่ลดลงอาจทำให้ตลาดไม่ลงแรง

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มแบงก์ที่งบไตรมาส 2/53 จะเริ่มทยอยประกาศออกมาให้เห็นในช่วงนี้อาจทำให้ตลาดฯปรับตัวไม่แรง เพราะได้รับกลุ่มแบงก์ช่วยพยุงไว้ ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นกลุ่มที่น่าสนใจและโดดเด่นเพราะดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นไม่ได้กระทบเชิงลบมากนัก เนื่องจากยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ยอดขายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในครึ่งปีหลังก็มีทิทางที่ดีจากการกลับมาของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อบ้าน เชื่อแนวโน้มผลประกอบการทั้งปีจะดีขึ้น ถือเป็นการลดทอนผลกระทบจากกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลง โดยให้แนวรับที่ 815 จุดลดลง 825 จุด

"การที่ดอกเบี้ยปรับขึ้นตอนนี้ไม่ได้มากถือว่าสะท้อนเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ไม่กระทบต่อผู้ซื้อจนเกินไปแต่คงจะเห็นลงทุนเป็นรายตัวและเล่นตามกระแสข่าวมากกว่า เพราะตอนนี้นักลงทุนวนหุ้นเล่น ตัวใหญ่แทบจะไม่ขึ้นเลย ดังนั้นควรเลือกเล่นหุ้นที่พื้นฐานดี"นายรักพงศ์ กล่าว

ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส คาดว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คงผันผวนในกรอบแคบๆ ในลักษณะการประคองตัว เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปก็เป็นเรื่องที่รู้กันแล้ว ส่วนราคาน้ำมันก็อยู่ในระดับที่ทรงตัว

“ที่เมื่อคืนเฟดประกาศข้อมูลภาคการผลิตที่ออกมาไม่ค่อยดี นั้นก็ถือว่าตามระดับ สุดท้ายดาวโจนส์ก็ขยับลงเล็กน้อยลบแค่ 7”นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้รอติดตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการชี้มูลความผิดในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ขอความร่วมมือให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่งเอสเอ็มเอสถึงประชาชนจำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

พร้อมให้แนวรับที่ 810 แนวต้านที่ 825-827

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(15 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,359.31 จุด ลดลง 7.41 จุด( 0.07%%)เอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,096.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด( 0.12% %) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,249.08 จุด ลดลง 0.76 จุด( 0.03%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 346.05 ล้านบาทเมื่อ 14 ก.ค.53
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 76.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 42 เซนต์%
  • วันนี้ ปปช. จะแถลงข่าวกรณีนายกฯ และนายกรณ์ส่ง SMS ให้ประชาชน 17.2 ล้านเลขหมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ว่ามีความผิดหรือไม่เวลา 10.00 น.
  • ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมโรดโชว์สิงคโปร์ ปลายเดือนส.ค.นี้ หลังจากโรดโชว์ลอนดอนบรรดากองทุนต่างประเทศตอบรับดี แต่หวั่นการเมืองในประเทศปะทุอีก ผสมปัญหามาบตาพุด ฉุดบรรยากาศการลงทุน กระตุ้นภาครัฐเร่งแก้ไข ฟื้นความเชื่อมั่น ขณะที่ บล.กสิกรไทยระบุการเมืองมีผลกระทบต่อการลงทุน ห่วงหากยุบพรรค ทำการเมืองไร้เสถียรภาพ ด้านแมนูไลฟ์ คาดเชื่อเศรษฐกิจ-บจ.แกร่งดันดัชนีปีนี้ 850 จุด
  • ตลาดอนุพันธ์ เริ่มเทรดฟิวเจอร์สของอัตราดอกเบี้ย 18 ต.ค.นี้ โดยจะซื้อขายพร้อมกันทั้งฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการในการบริหารความเสี่ยงจากความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าตลาดทุนไทย
  • ธนาคารพาณิชย์รับนโยบายธปท. นำร่องปรับดอกฝาก 0.1-0.55% ด้าน "กรุงไทย" ทั้งฝาก-กู้มีผลวันนี้ (16 ก.ค.)"ประสาร" อยากเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์ เหตุนิ่งมานาน
  • นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เปิดเผยว่า การเก็บรายได้เดือน มิ.ย.2553 เก็บได้สุทธิ 1.1 แสนล้านบาทสูงกว่าเป้ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาทหรือ 32.4% ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายกว่า 2.4 แสนล้านบาท หรือ 24.8%
  • สทท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3 ยังต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 70 พร้อมคาดการณ์ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 15.2-15.5 ล้านคน สร้างรายได้รวม 9.2 แสนล้าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ