ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 7.62 จุดยังเลือกเล่นรายตัว-เก็งกำไรงบQ2/53 คาดบ่ายยืนบวกต่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 16, 2010 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 828.64 จุด เพิ่มขึ้น 7.62 จุด (+0.93%)มูลค่าการซื้อขาย 20,222.90 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 829.45 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 822.88 จุด

นายวิจิตร ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราห์อาวุโส บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงเช้ายืนในแดนบวกเกิดจากการเลือกลงทุนเป็นรายตัวที่มีประเด็นสนับสนุน โดยกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ถือเป็นกลุ่มที่โดดเด่นหลังแนวโน้มกำไรดีกว่าคาดการณ์ KCE SVOA และเลือกเล่นหุ้นตามกระแสข่าว และเก็งผลการดำเนินงานที่คาดว่างบไตรมาส 2 จะมีกำไรเติบโต อย่าง CPF เป็นหุ้นที่ปรับขึ้นสวนกับตลาดและถือในระยะยาวเพื่อหวังปันผลได้ รวมทั้ง TMB ซึ่งทั้ง 2 ตัวพยุงตลาดไว้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองในประเด็น ป.ป.ช.ในการชี้มูลความผิดในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ขอความร่วมมือให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่งเอสเอ็มเอสถึงประชาชนจำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ต้องติดตามและกดดันตลาดฯ ได้ แต่ในช่วงสั้นคงไม่มีผลต่อตลาดจนกว่าจะพบว่ามีมูลตลาดก็จะปรับตัวลดลงทันที ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอย่างเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานไม่สามารถปรับขึ้นได้

"การลงทุนช่วงนี้ไม่มีอะไร เป็นการเล่นตามกระแส และก็เป็นตัวหุ้นที่ซ้ำๆ ฝรั่งก็แทบจะไม่มีบทบาทในช่วงนี้ ถ้าอยากลงทุนก็เลือลงทุนหุ้นที่มองแล้วมีพื้นฐานที่ดีทั้งการเติบโตที่จะเกิดขึ้นและในอนาคตจะปลอดภัย รายย่อยตอนนี้เจาะเป็นตัว ๆ ไม่สนใจดัชนีว่าจะขึ้นหรือลง"

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงยืนในแดนบวกได้ โดยเป็นการเลือกลงทุนหุ้นที่มีประเด็นสนับสนุน แนะเก็งกำไรระมัดระวังจากหุ้นที่ปรับขึ้นมาแรงมีแนวรับที่ 820 จุดและ 818 จุด แนวต้าน 828 -833 จุด

นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในแดนบวก ภาพรวมถือว่าดูดีกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย โดยในช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยใหม่มากระทบ และวันนี้การที่ป.ป.ช.มีมติเลื่อนชี้ขาดคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ขอความร่วมมือให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่งเอสเอ็มเอสถึงประชาชนจำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายออกไป ถือเป็นข่าวบวกที่ทำให้มีการเล่นในช่วงสั้นๆขึ้นมา ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นเรื่องการคาดการณ์ผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนต่างๆเป็นส่วนใหญ่

“ตลาดฯบ้านเราถือว่าค่อนข้างแข็งกว่าตลาดฯอื่นในภูมิภาค ตลาดฯเอเชียส่วนใหญ่วันนี้ปรับลง ทั้งนิเคอิอ่อนลงไปกว่า 200 กว่าจุด ฮั่งเส็งก็แกว่งแคบๆ ตลาดหุ้นจีนก็ปรับลงไป 28 จุด โดยรวมบ้านเราแข็งกว่าที่อื่นๆ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดฯยังคงยืนในแดนบวกต่อ และถ้าตลาดฯไม่ลงไปต่ำกว่า 820 จุด คิดว่าภาพรวมมีโอกาสลุ้นแกว่งตัว Sideway หรือถ้าทะลุ 827 , 828 อาจเป็น Sideway up ได้ พร้อมให้แนวรับที่ 820 แนวต้านที่ 827-830

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TMB มูลค่าการซื้อขาย 3,050.31 ล้านบาท ปิดที่ 2.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,939.60 ล้านบาท ปิดที่ 23.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
STPI มูลค่าการซื้อขาย 1,007.35 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.75 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 885.89 ล้านบาท ปิดที่ 0.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท
BJC มูลค่าการซื้อขาย 845.49 ล้านบาท ปิดที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ