ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 828.64 จุด เพิ่มขึ้น 7.62 จุด (+0.93%)มูลค่าการซื้อขาย 20,222.90 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 829.45 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 822.88 จุด
นายวิจิตร ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราห์อาวุโส บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงเช้ายืนในแดนบวกเกิดจากการเลือกลงทุนเป็นรายตัวที่มีประเด็นสนับสนุน โดยกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ถือเป็นกลุ่มที่โดดเด่นหลังแนวโน้มกำไรดีกว่าคาดการณ์ KCE SVOA และเลือกเล่นหุ้นตามกระแสข่าว และเก็งผลการดำเนินงานที่คาดว่างบไตรมาส 2 จะมีกำไรเติบโต อย่าง CPF เป็นหุ้นที่ปรับขึ้นสวนกับตลาดและถือในระยะยาวเพื่อหวังปันผลได้ รวมทั้ง TMB ซึ่งทั้ง 2 ตัวพยุงตลาดไว้
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองในประเด็น ป.ป.ช.ในการชี้มูลความผิดในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ขอความร่วมมือให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่งเอสเอ็มเอสถึงประชาชนจำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ต้องติดตามและกดดันตลาดฯ ได้ แต่ในช่วงสั้นคงไม่มีผลต่อตลาดจนกว่าจะพบว่ามีมูลตลาดก็จะปรับตัวลดลงทันที ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอย่างเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานไม่สามารถปรับขึ้นได้
"การลงทุนช่วงนี้ไม่มีอะไร เป็นการเล่นตามกระแส และก็เป็นตัวหุ้นที่ซ้ำๆ ฝรั่งก็แทบจะไม่มีบทบาทในช่วงนี้ ถ้าอยากลงทุนก็เลือลงทุนหุ้นที่มองแล้วมีพื้นฐานที่ดีทั้งการเติบโตที่จะเกิดขึ้นและในอนาคตจะปลอดภัย รายย่อยตอนนี้เจาะเป็นตัว ๆ ไม่สนใจดัชนีว่าจะขึ้นหรือลง"
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงยืนในแดนบวกได้ โดยเป็นการเลือกลงทุนหุ้นที่มีประเด็นสนับสนุน แนะเก็งกำไรระมัดระวังจากหุ้นที่ปรับขึ้นมาแรงมีแนวรับที่ 820 จุดและ 818 จุด แนวต้าน 828 -833 จุด
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในแดนบวก ภาพรวมถือว่าดูดีกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย โดยในช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยใหม่มากระทบ และวันนี้การที่ป.ป.ช.มีมติเลื่อนชี้ขาดคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ขอความร่วมมือให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่งเอสเอ็มเอสถึงประชาชนจำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายออกไป ถือเป็นข่าวบวกที่ทำให้มีการเล่นในช่วงสั้นๆขึ้นมา ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นเรื่องการคาดการณ์ผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนต่างๆเป็นส่วนใหญ่
“ตลาดฯบ้านเราถือว่าค่อนข้างแข็งกว่าตลาดฯอื่นในภูมิภาค ตลาดฯเอเชียส่วนใหญ่วันนี้ปรับลง ทั้งนิเคอิอ่อนลงไปกว่า 200 กว่าจุด ฮั่งเส็งก็แกว่งแคบๆ ตลาดหุ้นจีนก็ปรับลงไป 28 จุด โดยรวมบ้านเราแข็งกว่าที่อื่นๆ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดฯยังคงยืนในแดนบวกต่อ และถ้าตลาดฯไม่ลงไปต่ำกว่า 820 จุด คิดว่าภาพรวมมีโอกาสลุ้นแกว่งตัว Sideway หรือถ้าทะลุ 827 , 828 อาจเป็น Sideway up ได้ พร้อมให้แนวรับที่ 820 แนวต้านที่ 827-830