ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 833.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด(+0.34%)มูลค่าการซื้อขาย 22,488.98 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 836.66 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 831.50 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในแดนบวกสวนทางกับตลาดในภูมิภาคและดาวโจนส์ที่เมื่อคืนปิดลบลงไปมาก หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐออกมาระบุว่าเศรษฐกิจของสหรัฐยังมีความไม่แน่นอน
ส่วนตลาดบ้านเราได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการส่งออกที่ออกมาดีเกินคาด ประกอบกับ กลุ่มธนาคารมีผลประกอบการที่ดี ทำให้มีการเล่นเก็งกำไรในแบงก์ที่มีผลประกอบการณ์ที่ดีเกิดคาด และก็จะมีการเล่นกระจายไปในกลุ่มที่มีข่าว
นอกจากนี้ พรุ่งนี้ ธปท.จะมีการรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อรายไตรมาส ซึ่งคาดว่า ธปท.น่าจะมีการปรับประมาณตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ขึ้น ซึ่งก็จะเป็นข่าวดีสำหรับตลาดบ้านเราด้วย
“เมื่อวานนี้ก็มีตัวเลขส่งออกออกมาปรากฏว่าโตกว่าที่คาดมาก ๆ สินค้าที่โตดีก็พวกชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์ รถยนต์ ยาง มันก็ส่งผลให้ตลาดวันนี้บวก และตัวเลขเศรษฐกิจของเราดีกว่าคาดตลอด และก็ยังไม่ส่อแววชะลอ มันก็เลยเป็นบวก support ตลาด ผลประกอบการก็ทยอยประกาศออกมาอย่างแบงก์ก็ออกมาดี ทำให้มีการเก็งกำไรในตัวแบงก์ที่ออกมาแล้วดีกว่าคาด
นอกนั้นก็จะกระจายไปเป็นกลุ่ม ๆ ที่มีข่าว อย่างกลุ่ม 3จี พวกดอกเบี้ยขาขึ้น เขาก็มาเล่นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง มีเงินสดในมือเยอะๆ น่าจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น มันก็เลยทำให้หุ้นขนาดกลาง เล็ก และแบงก์ ยังพอ support ตลาดให้บวกอยู่ได้ แต่ตัวพลังงาน ปิโตรเคมี ก็ยังเป็นตัวกดดันตลาดอยู่”น.ส.จิตรา กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น แต่ระหว่างเทรดก็มีแรง take profit ออกมา แต่ตลาดบ้านเราก็ยังสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวลง เนื่องจากตลาดต่างประเทศต่างกำลังรอดูผล Stress test ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์นี้
ตลาดบ้านเราจึงไปไม่ไกล ทิศทางโดยรวมยังเป็นลักษณะของการแกว่งไซต์เวย์ และเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว(Selective)มากกว่า โดยเช้านี้ก็มีการเล่นเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มสื่อสารทำให้กลุ่มนี้ขึ้นมานำตลาดฯ และก็มีการเล่นหุ้นในกลุ่มแบงก์บางตัว ซึ่งเป็นตัวที่มีการประกาศผลประกอบการออกมาดี โดยตลาดฯยังเป็นลักษณะของการเล่นเก็งหุ้นรายตัวตามประเด็นของแต่ละตัวมากกว่า ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานดูจะนิ่ง ๆ ส่วนหุ้นพวกปิโตรฯก็ปรับตัวลง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ โดยให้แนวรับไว้ที่ 820 จุด แนวต้าน 836 จุด
ส่วนน.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเหมือนกับช่วงหลายวันที่ผ่านๆมา คือช่วงเช้าจะบวกแรง พอบ่ายจะเริ่ม Take Profit และอาจปิดติดลบนิดหน่อย คงต้องย่ำฐาน 830 อยู่อีกระยะหนึ่ง พร้อมให้แนวรับ 830-828 จุด แนวต้าน 836-840 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,079.33 ล้านบาท ปิดที่ 92.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,574.22 ล้านบาท ปิดที่ 3.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,179.58 ล้านบาท ปิดที่ 1.95 บาท ลดลง 0.13 บาท
BAY มูลค่าการซื้อขาย 1,087.10 ล้านบาท ปิดที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,029.03 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท