ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 840.35 จุด เพิ่มขึ้น 7.34 จุด(+0.88%)มูลค่าการซื้อขาย 23,083.77 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 842.38 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 837.87 จุด
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวขึ้นกันหมด ตามตลาดสหรัฐฯ คงจะเป็นผลจากผลประกอบการงวดไตรมาส 2/53 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้สร้างความมั่นใจในเศรษฐกิจของสหรัฐฯอีกครั้ง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาก็ยังอ่อนแออยู่
นอกจากนี้ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์และจะมีการหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดบ้านเราอยู่ในทิศทางแกว่งตัว และตลาดฯก็ยังเฝ้ารอดูผล Stress Test ของธนาคารยุโรปด้วย
ด้านนายธวัชชัย อัศวพรไชย รองผู้อำนวยการอาวุโส บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งผันผวนในแดนบวก แต่ไม่ได้รุนแรง ดัชนีฯก็มีการทำ New High ขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ยังคงเล่นเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการเป็นหลัก
ส่วนปัจจัยลบในประเทศยังเป็นเรื่องของพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวไซต์เวย์ รอดูผล Stress Test ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันนี้ มองว่าเป็นผลจากความกังวลพายุดีเปรสชั่น 3 ลูกที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสมชาย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะอยู่ในทิศทางของการแกว่งตัว พร้อมให้แนวรับ 830-820 จุด แนวต้าน 830 จุด
นายธวัชชัย กล่าวว่า ตลาดฯอาจปรับตัวลงบ้าง แต่คงจะยืนระดับ 836 หรือ 832 จุดได้ โดยตอนนี้ตลาดฯค่อนข้างSideway up โดยค่อย ๆ ยกระดับขึ้นไปทีละเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 832 จุด แนวต้าน 840-847 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,737.31 ล้านบาท ปิดที่ 4.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,606.44 ล้านบาท ปิดที่ 86.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,451.90 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,112.95 ล้านบาท ปิดที่ 141.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
STEC มูลค่าการซื้อขาย 713.77 ล้านบาท ปิดที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท