ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะถดถอยรอบสอง จากผลพวงของการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 16.01 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 5,195.28 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนวันนี้เผชิญกับปัจจัยลบจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจเผชิญภาวะถดถอยรอบสอง ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบทั่วทั้งกระดาน โดยมีหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป ตกลงหนักสุดถึง 2.26%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจจะเผชิญภาวะถดถอยรอบสองมาจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 500,000 ราย ขณะที่ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงสู่ระดับ -7.7 จุดในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มทรัพยากรเหมืองก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้น Kazakhmys ที่ตกลงไป 3.79%
ขณะเดียวกัน หุ้นบริติช แอร์เวย์ปรับตัวลดลง 2.74% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานราวครึ่งหนึ่งวิ่งสูงขึ้นสู่แดนบวก นำโดยหุ้นบีจี กรุ๊ปที่พุ่งขึ้น 5.92% และหุ้นดานา ปิโตรเลียมทะยานขึ้น 5.96%