ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงหลุดจากระดับ 9,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2552 ในวันนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นได้จุดปะทุให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ขณะที่ทางการญี่ปุ่นยังไม่มีทีท่าว่าจะใช้มาตรการใดๆเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนในขณะนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 121.55 จุด หรือ 1.33% แตะที่ 8,995.14 จุด
ราคาหุ้นร่วงลงเกือบทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงหนักสุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ขณะที่หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ กลุ่มประมงและป่าไม้ กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าและแก๊ส ดีดตัวขึ้น
โตชิฮาสึ โฮริอุชิ นักวิเคราะห์จากคอสโม ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า "นักลงทุนในตลาดต้องการให้รัฐบาลใช้นโยบายสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน แต่ทางการญี่ปุ่นเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ จึงสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่รัฐบาลล่าช้าเรื่องการใช้มาตรการรับมือกับความผันผวนในตลาด ทำให้นักลงทุนมองว่าญี่ปุ่นยังล้าหลังสหรัฐและยุโรปในเรื่องการใช้มาตรการ"
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียว และกระตุ้นให้นักลงทุนกระหน่ำขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นโตเกียวซบเซาลงด้วย
ตลาดหุ้นโตเกียวได้รับปัจจัยลบจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีข่าวว่า นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์ดิ่งลงสู่ระดับ 84 เยน ซึ่งเงินเยนที่แข็งค่าส่งผลให้กำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นหดตัวลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก