ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 23.66 จุด หลังสหรัฐ-อังกฤษเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 1, 2010 08:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษที่สูงขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 23.66 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 5,225.22 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,129.66 - 5,225.22 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนพ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% และหากเทียบกับเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ดัชนีราคาบ้านพุ่งขึ้น 4.2% ส่วนดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศของสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.4% หลังจากหดตัวลง 2.8% ในไตรมาสแรก สะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยได้ปัจจัยบวกจากนโยบายลดหย่อนภาษีแก่ผู้ซื้อบ้าน

ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.5 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 51 จุด

หุ้นเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำและแร่เงิน พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากราคาราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะในแอฟริกาตะวันตก ดีดตัวขึ้น 2.6% ส่วนหุ้นริโอทินโต ปิดพุ่ง 2.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ “buy" จากเดิมที่ระดับ “neutral"

หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ปิดพุ่ง 8.6% เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวการเทคโอเวอร์

GfK NOP Ltd. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนส.ค.เพิ่มสูงขึ้น 4 จุด มาอยู่ที่ระดับ -18 ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ถึงการดีดตัวทางเศรษฐกิจซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

เจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก GfK NOP Social Research ระบุว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ขยายตัวดีขึ้นครั้งนี้บ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งหากรายงานดังกล่าวออกมาในลักษณะตรงกันข้าม เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยรอบสอง

โดยเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวที่ระดับ 1.2% ในไตรมาส 2 หลังจากที่อุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัวขึ้น ขณะที่หลายบริษัทปรับสต็อกสินค้าจากอานิสงส์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษยังมีความวิตกกังวลว่า ธนาคากลางรอาจต้องเพิ่มมาตรการฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ