โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PTTCH แนวโน้มกำไรปี 54 โต จากกำลังผลิต-สเปรดเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 15, 2010 15:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH)มองจบปัญหามาบตาพุดแล้วจะช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่ม และราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกอยู่

แม้ผลกำไรงวดไตรมาส 3/53 คาดว่าจะออกมาไม่ดี เนื่องจากสเปรดปิโตรเคมีลดลง แต่ไตรมาส 4/53 จะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา 30% จากโรงแครกเกอร์ใหม่ที่เข้ามา และยังได้รับผลดีจากการปลดล็อค 4 โครงการในมาบตาพุด ซึ่งทำให้เดินเครื่องผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4/53

รวมทั้งเชื่อว่าสเปรดปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/53 และหลังจากนี้ก็จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4/53 นอกจากนี้แนวโน้มผลกำไรของ PTTCH ในปี 54 อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ของ PTTCH ไว้ที่ 15,900-18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 9,506-13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท

          โบรกเกอร์                คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          Citigroup                 ซื้อ             149.00
          บล.ทรีนีตี้                   ซื้อ             165.00
          บล.เอเชีย พลัส              ซื้อ             158.00
          บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)       ซื้อ             145.00
          บล.ทิสโก้                   ซื้อ             141.00
          บล.เกียรตินาคิน              ซื้อ             138.00
          บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)       ซื้อ             138.00

Citigroup หรือ CITI ปรับราคาเป้าหมายหุ้น PTTCH จาก 120 สู่ 149 บาท/หุ้น พร้อมแนะนำ"ซื้อ"เนื่องจากจบปัญหามาบตาพุดแล้วจะช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่ม และ EPS Growth 86% สูงสุดใน Asia+PBV@1.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Asia ที่ 1.6x+11ROE ขยับขึ้นจาก 8.9% สู่ 16.4% ปรับกำไรขึ้น 9.9%/10.8% ในปี 10-11?

น.ส.จิติมา อ๋องมณี นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า หุ้น PTTCH ปัจจุบันยังถูกอยู่ แม้ว่าผลกำไรงวดไตรมาส 3/53 คาดว่าจะออกมาไม่ดี เนื่องจากสเปรดปิโตรเคมีลดลง แต่ในไตรมาส 4/53 จะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 4.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 5.5 ล้านตัน ซึ่งได้มาจากโรงแครกเกอร์ใหม่ และยังได้จากการปลดล็อค 4 โครงการในมาบตาพุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกระงับไปจะสามารถเดินเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 4/53 และเชื่อว่าสเปรดปิโตรฯน่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/53 ด้วย

ทั้งนี้ ได้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ของ PTTCH ไว้ที่ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 60% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท

น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มผลกำไรของ PTTCH ในปี 54 อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่โครงการ PTTPE สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งก็จะเริ่มเดินหน้าผลิตในไตรมาส 4/53 และจะค่อย ๆ เพิ่มกำลังผลิตเป็น 100% ในปีหน้า

นอกจากนี้ สเปรดปิโตรเคมี สายโอเลฟินส์ น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/53 และหลังจากนี้ก็จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า PTTCH รับผลดีจากการปลดล็อคโครงการมาบตาพุด ซึ่งทำให้ PTTCH เริ่มเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ พ.ย.นี้ และจะเดินเครื่องได้เต็ม 100% ในปีหน้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นมาเกือบ 30% เป็น 2.7 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ 2.1 ล้านตัน

นอกจากนี้ ปี 54 สเปรดมาร์จินก็น่าจะขยับตัวขึ้นมาบ้าง เพราะฉะนั้นโดยรวมจะทำให้กำไรสุทธิของ PTTCH ในปีหน้าเติบโตได้ประมาณ 68% เป็น 15,900 ล้านบาท โดยปีนี้กำไรสุทธิคาดว่าจะมี 9,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 6,802 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ