ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกลดลงในเดือนก.ค. และสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 15.42 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 5,540.14 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,533.96 - 5,564.46 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนตัวลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนส.ค.ร่วงลง 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าการขึ้นภาษีและการลดงบประมาณรายจ่ายเริ่มส่งผลต่อผู้บริโภคแล้ว
หุ้นบีที ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่สุดของอังกฤษ ดิ่งลง 3.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ “equal weight" จากระดับ “overweight"
ส่วนหุ้นบีพีปิดบวก 1.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปคาดว่า บริษัท CNOOC ซึ่งเป็นผู้ผลิตและสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งรายใหญ่สุดของจีน อาจจะเสนอซื้อหุ้น 60% ที่บีพีถือครองอยู่ในบริษัทแพน อเมริกัน เอ็นเนอร์จี
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 2.5% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดลบ 1.3%