ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นิกเกอิดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกอยู่ช่วงหนึ่งในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดร่วง 94.65 จุด หรือ 0.99% แตะที่ 9,471.67 จุด
หุ้นกลุ่มประกันร่วงลงหนักสุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตแก้วและเซรามิก และกลุ่มเคมีภัณฑ์ ส่วนหุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มเบ็ดเตล็ด และกลุ่มอาหารดีดตัวขึ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวถูกกดดันหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 76.89 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,662.42 จุดเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ก.ย.เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 465,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 450,000 ราย
ยูทากะ มิอูระ นักวิเคราะห์จากมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า นิกเกอิดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกอยู่ช่วงหนึ่งในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งช่วยให้ช่วงลบในตลาดลดน้อยลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดในวันนี้ ด้วยการเทขายสกุลเงินเยน ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน
ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี ด้วยการใช้เงินมูลค่าประมาณ 1.7-1.8 ล้านล้านเยน เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์และเทขายเงินเยน ซึ่งนับเป็นการใช้เงินแทรกแซงตลาดภายในวันเดียวที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์