นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา Asian Corporate Governance Association (ACGA) และ CLSA Asia-Pacific Makets ได้ประกาศผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของประเทศในเอเชีย (CG Watch) ซึ่งปีนี้ประเทศไทยขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 จากอันดับที่ 8 ในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อปี 2550 และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นประเภศที่มีพัฒนาการดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
"CG Watch ถือว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ผู้ลงทุนหลายประเทศเฝ้าติดตามดู ซึ่งการที่เราขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ก็คงส่งผลให้นักลงทุนสนใจและให้ความสำคัญกับเรามากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนระยะยาวจะใช้ตัว CG Watch เป็นหลักเกณฑ์ในการบริหารความเสี่ยงและใช้พิจารณาการลงทุนในกองทุนของประเทศต่างๆ ซึ่งเมื่อเรตติ้งประเทศไทยดีขึ้นก็ถือเป็นปัจจัยในการเสริมศักยภาพในระยะยาว เป็นปัจจัยที่เสริมและดึงดูดให้กองทุน้เหล่านี้เข้ามาลงทุนมากขึ้น"นายชาลี กล่าวนายชาลี กล่าวว่า ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ยังพร้อมที่จะร่วมกันส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันตามแผนพัฒนาตลาดทุนต่อไปในระยะยาว
ทั้งนี้ จะมีการแก้ไขในส่วนของกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีบางประเด็นที่ยังเป็นข้อด้อยและมีความล่าช้า ซึ่งในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนเสนอกระทรวงการคลังเพื่อให้กฤษฎีกาและกระทรวงยุติธรรมยกร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้ภาพรวมของการกำกับดูแลกิจการดีขึ้น