MILL เผย"กองทุนเปิดไทยทวีคูณ 2"เข้าถือหุ้น 7% ช่วยหนุนโครงสร้างแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 10, 2010 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดไทยทวีทุน 2 ได้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 7% ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ส่งผลดีต่อ MILL และเชื่อว่าจะเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยสาเหตุที่เข้ามาลงทุน เพราะมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งส่งผลดีต่อผลประกอบการ และราคาหุ้นในอนาคต

โดยเฉพาะโครงการ Green Mill Project ที่จะผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นของ MILL ขยับขึ้นเป็น 15-20% และทำให้ผลประกอบการของบริษัทในอนาคตมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมากซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 40% แล้ว และตามแผนงานจะสามารถผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ต้นปี 55

และการเข้าร่วมลงทุนโดย กองทุนเปิดไทยทวีทุน 2 จะทำให้โครงสร้างการถือหุ้นของ MILL มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่มีกลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบันให้การสนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว อย่าง DEG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ KfW ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของเยอรมันซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของ MILL โดยพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า MILL ก้าวไปสู่ภาพธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง บริหารงานอย่างมืออาชีพและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่มีนักลงทุนสถาบัน อย่างกองทุนเปิดไทยทวีทุน 2 ซึ่งบริหารโดย บลจ.กรุงไทย และที่ปรึกษาทางเทคนิค คือ บริษัท ไทยพรอส เพอริตี้ แอ็ดไวซอรี่ จำกัด เข้ามาถือหุ้นในบริษัทของเรา เพราะหมายความว่า MILL มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ยึดหลัก ธรรมาภิบาลในการบริหารกิจการ และมีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งตรงนี้นักลงทุนสถาบันมองเห็นว่าอนาคตของ MILL มีศักยภาพที่จะขยายตัวไปได้อีกมาก จึงตัดสินใจเข้ามาถือหุ้นในที่สุด" นายสิทธิชัย กล่าว

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ MILL พร้อมที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเพื่อเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาถือหุ้นได้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลบวกกับธุรกิจเนื่องจากสามารถที่จะเกื้อหนุนและส่งเสริมธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ กรรมการบริหาร MILL กล่าวว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมเหล็กยังมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง เชื่อราคาเหล็กจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 4/53 จากความต้องการใช้เหล็กที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเร่งการก่อสร้างหลังช่วงฤดูฝน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ