บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ [PRIME] เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (PRG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ขายหุ้นทั้งหมดใน 3 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท สตาร์ โซลาร์ จำกัด (STS) บริษัท สมาร์ท โซลาร์ จำกัด (SMS) และ บริษัท ไอดีล โซลาร์ จำกัด (IDS) ในมูลค่า 686,180,800 บาท ให้แก่ GREENYELLOW CHSPP Pte Ltd
STS, SMS และ IDS ดำเนินธุรกิจโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร 4 แห่ง ดังนี้
1. โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ในอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (BSA-08) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมี บริษัท ไพร์ม อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PAE) เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง STS ถือหุ้นใน PAE ในสัดส่วนร้อยละ 99.99
2. โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ในอำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (LBL-05) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมี บริษัท ไพร์ม โรด โซลาร์ จำกัด ("PRS") เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง SMS ถือหุ้นใน PRS ในสัดส่วนร้อยละ 99.99
3. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ในอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (BSA-01) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมี บริษัท ไพร์ม รีนิวเอเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ("PRD") เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง PRG และ IDS ถือหุ้นใน PRD ในสัดส่วนร้อยละ 51 และร้อยละ 48.99 ตามลำดับ
4. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ในอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี (LAK-09) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ โดยมี PRD เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ
เนื่องจากผู้ซื้อมีความประสงค์ที่จะเข้าเป็นเจ้าของโครงการ BSA-01 และ โครงการ LAK-09 ผ่านการถือหุ้น IDS ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นสำหรับ IDS และ PRD โดย PRG จะดำเนินการขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ PRG ถือใน PRD ในสัดส่วนร้อยละ 51 ให้แก่ IDS เพื่อให้ IDS เป็นผู้ถือหุ้นของ PRD ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ก่อนดำเนินการธุรกรรมการขายหุ้นฯ ให้กับผู้ซื้อ
ทั้งนี้ ภายหลังธุรกรรมการขายหุ้นฯ เสร็จสิ้น จะส่งผลให้ STS, SMS และ IDS รวมทั้งบริษัทย่อยภายใต้บริษัททั้ง 3 ได้แก่ PAE, PRS และ PRD รวมทั้งหมด 6 บริษัท สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRIME เปิดผยว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะชำระเงินคืนแก่ผู้ถือหุ้นกู้ตามกำหนดการที่วางไว้ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืนต่อไป
"บริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินทุนสำรองเพื่อชำระคืนเงินต้นร้อยละ 30 ของหุ้นกู้และดอกเบี้ยหุ้นกู้ของบริษัทจำนวน 4 รุ่น ได้แก่ PRIME253B PRIME253A PRIME25DA และ PRIME25DB"นายสมประสงค์ กล่าวด้วยว่า บริษัทได้ดำเนินการตามแผนการจัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดชำระ ทั้งนี้การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวนี้ นับเป็นหนึ่งในแผนการบริหารจัดการ ที่บริษัทได้ติดตามและให้ความสำคัญในการดำเนินการตามแผนการจัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดชำระซึ่งบริษัทได้ดำเนินการดังนี้คือการหาผู้ร่วมทุนและการจำหน่ายสินทรัพย์บางส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าภายใต้กลุ่มบริษัท การติดตามลูกหนี้ค้างชำระจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท การเจรจาขอสินเชื่อโครงการสำหรับโครงการโรงไฟฟ้ากับนักลงทุนและสถาบันการเงิน ควบคู่กับการดำเนินนโยบายบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างเข้มงวดและรัดกุมทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการทางการเงิน