ตลท.จี้ BYD แจงด่วนขาดทุนพุ่ง 2.6 พันลบ.ตั้งสำรองหนี้ TSB ก้อนโต-ปรับเงื่อนไขหนี้ ACE

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 6, 2025 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ บล.บียอนด์ (BYD) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาส 2/68 ซึ่งงวด 6 เดือน บริษัทขาดทุนสุทธิ 2,668 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการบันทึกผลขาดทุนด้าน เครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของเงินให้กู้ยืมแก่ TSB 2,652 ล้านบาท รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินให้กู้ยืมกับ ACE ซึ่งกรณีข้างต้น กระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท โดยขอให้ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 14 ต.ค.68 ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการ บริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 20 ต.ค.68 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของ บริษัท

ตั้งแต่ปี 65 BYD มีการให้เงินกู้ยืมกับ บริษัท เอซ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ACE : บริษัทร่วม 49%) และบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB : บริษัทร่วมทางอ้อม ซึ่งถือหุ้นโดย ACE 100%) เพื่อสนับสนุนการลงทุนขยายธุรกิจของ TSB ซึ่งประกอบธุรกิจ ขนส่งสาธารณะประจำทาง โดยปัจจุบันมียอดเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับกับ TSB รวม 10,759 ล้านบาท มีการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้าน เครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 7,561 ล้านบาท มีการพักชำระคืนเงินต้นออกไปเป็นไม่เกิน 31 ม.ค.70 และพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี โดยยังคง คำนวณดอกเบี้ย

เดือน ม.ค. 68 BYD มีการให้เงินกู้ยืมกับ ACE รวม 1,050 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้เงินกู้ที่ ACE กู้มาเพื่อลงทุนซื้อรถ โดยสารพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้กลุ่ม TSB เช่าซื้อสำหรับดำเนินกิจการ กำหนดชำระ 31 มี.ค.68 ซึ่งในเดือน มี.ค. 68 ACE ชำระคืนเงิน กู้ 430 ล้านบาท สำหรับเงินให้กู้ยืมอีก 620 ล้านบาท BYD ได้ขยายเวลาชำระคืนเงินกู้เป็น 31 ม.ค.74 และลดดอกเบี้ยเป็นจาก 6- 7% เป็น 4% และให้ TSB ชำระคืนเงินกู้โดยตรงให้ BYD รวมทั้งให้ TSB เข้าค้ำประกันการชำระหนี้ ซึ่งในเรื่องนี้ BYD ได้ชี้แจงใน MD&A ว่าเหตุผลคือผลประกอบการของ TSB ไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ ซึ่ง TSB ต้องปรับวิธีคิดค่าโดยสารโดยให้อ้างอิงตามตาราง บันไดราคาตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ส่งผลให้รายได้ของ TSB ลดลงจากที่ประมาณการไว้อย่างมีสาระสำคัญ

ทั้งนี้ ตลท.เคยให้ BYD ชี้แจงเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง BYD ได้ชี้แจงข้อมูลว่าการบันทึกค่าเผื่อฯเงินให้กู้ยืมกับ TSB 4,909 ล้านบาทในงบปี 67 มีความสมเหตุสมผลและครบถ้วน โดยคาดการณ์จากปัจจัยแวดล้อม เช่น ผลกระทบจากจำนวนผู้โดยสารที่ อาจลดลงจากนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นต้น และต่อมาได้บันทึกค่าเผื่อฯ เงินให้กู้ยืมกับ TSB เพิ่มเติม 73 ล้านบาท ในงบการเงินไตรมาส 1/68 เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้รับชำระดอกเบี้ยเป็นเงินสด ทำให้ต้องคำนวณค่าเผื่อฯ ใหม่ เพื่อสะท้อน ความเสี่ยงอย่างรอบคอบและรัดกุม

ตลท.จึงขอให้ชี้แจงข้อมูล ดังนี้

1. การขยายเวลาชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับ ACE ลดอัตราดอกเบี้ย และให้ TSB ชำระหนี้แทนและเข้าค้ำประกันชำระหนี้ มีผล กระทบกับบริษัทในเรื่องดังต่อไปนี้อย่างไร

  • Counterparty Credit Risk เปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร รวมถึงกรณีที่ต้องมีการฟ้องร้องหากไม่สามารถชำระหนี้ได้
  • อัตราดอกเบี้ย คุณภาพและมูลค่าหลักประกัน (รถโดยสารไฟฟ้าที่ TSB ใช้ในการทำธุรกิจ) ที่บริษัทได้รับเหมาะสม
และสอดคล้องกับความเสี่ยงที่เปลี่ยนไปและความสามารถในการชำระหนี้ของ TSB หรือไม่ อย่างไร อ้างอิงกับข้อมูลใด
  • เงื่อนไขใหม่นี้กระทบกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน สภาพคล่องของบริษัท หรือเป็นประโยชน์กับบริษัทอย่างไร
ปัจจุบันถือว่าบริษัทมี Exposure กับ TSB เป็นสัดส่วนเท่าไร บริษัทมีมาตรการในการดูแล ติดตาม และจำกัดความเสี่ยงอย่างไร เนื่อง
จากบริษัทชี้แจงว่ารายได้ของ TSB ลดลงจากที่ประมาณการไว้อย่างมีสาระสำคัญ
  • รายละเอียดของกระบวนการพิจารณาและผู้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ ของเงินให้กู้ยืมกับ ACE รวมถึง
เป็นไปตามเกณฑ์และนโยบายของบริษัทหรือไม่ อย่างไร

2. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของการพิจารณาการให้กู้ยืมและ การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขต่างๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ