บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป [PRTR] แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดย บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [JMART] ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมว่าได้ดำเนินการขายหุ้นสามัญของ PRTR ออกไปจำนวน 89,999,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15.00% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ให้กับ Holistic Impact Pte. Ltd. ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่
HOLISTIC IMPACT เป็นบริษัทที่ถือหุ้น 100% โดย Lombard Asia V, L.P. (LAV) ซึ่งเป็นกองทุน Private Equity Fund ที่มีชื่อเสียงและเน้นการลงทุนระยะยาวในบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มการเติบโตและศักยภาพการแข่งขันสูง การเข้าถือหุ้นครั้งนี้จึงเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานและศักยภาพของ PRTR
นอกจากนี้ PRTR ยังได้รับแจ้งจาก นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ กรรมการบริษัท ถึงความประสงค์ในการลาออกจากตำแหน่งกรรมการ โดยมีผลทันทีพร้อมกับการทำธุรกรรมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังกล่าว
บริษัทฯ ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อการควบคุมกิจการของบริษัทฯ (No Change of Control) รวมถึงไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจ โครงสร้างการบริหารงานและการจัดการของบริษัทฯ และไม่เข้าข่ายเป็นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer)
ขณะที่ JMART แจ้งว่าการขายหุ้น PRTR จำนวน 89,999,900 หุ้น ใน ราคาหุ้นละ 3.34 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 300,599,666 บาท กับ HOLISTIC IMPACT PTE. LTD. บริษัทได้บันทึกรายการเงินลงทุนเป็นแบบมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (FVOCI)
นางสาว ริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRTR กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายใหม่ Holistic Impact ซึ่งถือหุ้นโดยกองทุน Lombard Asia เข้ามาลงทุนนบริษัทสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของ PRTR ในฐานะผู้นำด้าน Total HR Solutions ของไทย และเสริมความแข็งแกร่งให้กับ PRTR ในการขับเคลื่อนบริษัทสู่เวที Regional Expansion เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้ให้บริการ HR Solutions ชั้นนำของอาเซียน
"การที่ Lombard Asia เข้ามาลงทุนผ่าน Holistic Impact ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ PRTR ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีประสบการณ์ลึกซึ้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ PRTR ทั้งในด้านกลยุทธ์การลงทุน (M&A) การขยายเครือข่ายพันธมิตร และการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานให้ทัดเทียมในระดับสากล เพื่อผลักดันให้ PRTR เติบโตต่อเนื่องจากผู้นำในไทยสู่การเป็นผู้นำระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน"ทีมผู้บริหารชุดเดิมยังคงดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์และกลยุทธ์เดิม โดย PRTR และ JMART ยังคงรักษาความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมมือกันต่อไปในการใช้ศักยภาพของ PRTR ในการจัดหาและบริหารบุคลากรครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มเจมาร์ทในภาคค้าปลีก บริการ และธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งเป็น ความร่วมมือแบบ WinWin Partnership ของทั้งสององค์กร
PRTR ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในฐานะผู้นำด้าน Total HR Solutions อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่
ธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource)
ธุรกิจบริการสรรหาพนักงาน (Recruitment)
ธุรกิจเทคโนโลยีด้านทรัพยากรบุคคล (HR Tech) ภายใต้แพลตฟอร์มบริหารบุคลากร PINNO
ธุรกิจฝึกอบรมและพัฒนาองค์กร (Integrated Learning Services) ภายใต้แบรนด์ The Blacksmith
โดยมุ่งสร้างระบบนิเวศด้านทรัพยากรบุคคล (HR Ecosystem) ที่ครบวงจรและแข็งแกร่ง ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital HR Transformation ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์สำคัญของภูมิภาค พร้อมต่อยอดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค ผ่านกลยุทธ์ Organic Growth และ Inorganic Growth
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART กล่าวเพิ่มเติมว่า การขายหุ้นดังกล่าวเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนในโอกาสใหม่ในอนาคต ไม่ได้เกิดจากปัญหาสภาพคล่อง โดย JMART ยังคงมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง พร้อมจ่ายคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนตุลาคม 2568 นี้แน่นอน โดยเตรียมพร้อมจากสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลักของบริษัท
JMART มุ่งลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตสูง และสามารถสร้าง Synergy กับธุรกิจในเครือ ทั้งในด้านเทคโนโลยี ค้าปลีก และการเงิน ภายใต้กลยุทธ์ Commerce Tech และ FinTech เพื่อขยายระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ให้แข็งแกร่งและเชื่อมโยงกันมากขึ้น พร้อมทั้งการก้าวสู่การเตรียมความพร้อมในการเป็นองค์กรที่นำเอา AI มาใช้ในกลุ่มธุรกิจ
"การขายหุ้น PRTR ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความพร้อมในการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต ขณะเดียวกัน JMART และ PRTR ยังคงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง การปรับพอร์ตครั้งนี้สะท้อนแนวทางการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ มุ่งสร้างสมดุลระหว่างความแข็งแกร่งทางการเงินและโอกาสเติบโตระยะยาว" นายอดิศักดิ์ กล่าว