บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น [BCP] ยืนยันว่าไม่เคยได้รับการติดต่อจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบตามที่มีรายงานข่าวว่า ก.ล.ต.และ ปปง.ตรวจสอบบริษัทจดทะเบียน 7 บริษัทเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ การรายงานการเปิดเผยข้อมูลการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ และ การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับคดีขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ
BCP ระบุว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
บริษัทขอยืนยันหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) และความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ รวมถึง การเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน โดยบริษัทดำเนินการด้วยความระมัดระวังตามหลักธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
ตามข้อมูลที่บริษัทได้เปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.ย.68 บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด ถือหุ้นในบริษัทฯ ที่ 20.1% เป็นการเข้าซื้อหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ที่มีกฎเกณฑ์และการกำกับดูแลจากทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ ก.ล.ต. บริษัทได้สอบถามข้อมูลไปยังผู้ถือหุ้นรายดังกล่าว ซึ่งได้ให้ข้อมูลตอบกลับมา
และต่อมาบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69/247-1) ส่วนที่ 1 ข้อ 3.2 หน้า 3-4 ที่ได้รับอนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จาก ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 16 ต.ค.68 และเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ของ ตลท.เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 โดยบริษัทได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างการถือหุ้นและอำนาจควบคุมของผู้ถือหุ้นรายดังกล่าว จากกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ยืนยันต่อบริษัทว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและตรงต่อความเป็นจริง
อย่างไรก็ดี บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการบริษัทตระหนักถึงความกังวลใจของนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย จึงมีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ประกอบด้วยคณะกรรมการบริษัทที่เป็นอิสระและกรรมการที่ไม่มีส่วนได้เสีย ซึ่งมีหน้าที่ในการพิจารณาและให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัทฯ และเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในการป้องกัน รวมถึงแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งในส่วนของมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบในระยะสั้น และการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน ตลอดจนให้คำแนะนำต่อคณะกรรมการบริษัทในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามหลัก Fiduciary Duty เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ตลอดจน เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
คณะกรรมการชุดนี้จะให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. และ ป.ป.ง. เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีมาตรฐานสูงสุดในการกำกับดูแลกิจการที่ดี บริษัทขอยืนยันว่าจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) ที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดยตลอด