"ดีเอ็นเอ"พร้อมเข้าเทรดในตลาด mai 21 ธ.ค.หลังเสนอขาย IPO 160 ล้านหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 19, 2012 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ดีเอ็นเอ 2002 (DNA) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 โดย DNA ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ ประเภทภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ในรูปแบบบลูเรย์ ดีวีดี วีซีดี และซีดี รวมถึงสิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และพ็อกเก็ตบุ๊ค ผ่านร้านค้าปลีกกลุ่มบริษัท และร้านค้าร่วมบริการในโมเดิร์นเทรดมากกว่า 1,432 สาขาทั่วประเทศ

DNA มีทุนชำระแล้ว 160 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 480 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 160 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 12-14 ธันวาคม 2555 ในราคาหุ้นละ 1.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 304 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 กล่าวว่า การที่บริษัทได้นำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท และช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัททั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้มากขึ้นในอนาคต

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DNA 3 รายแรก ได้แก่ กลุ่มคุณสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา และครอบครัว ถือหุ้น 38.06% คุณศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล ถือหุ้น 23.44% และ คุณอารียา ยอดทองดี ถือหุ้น 2.03% ราคา IPO ของ DNA ในราคาหุ้นละ 1.90 บาท ตามข้อมูลที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 26.30 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้น 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 - ไตรมาสที่ 3 ของปี 2555) เท่ากับ 46.24 ล้านบาทหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully diluted) ซึ่งเท่ากับ 640 ล้านหุ้น คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.07 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่าง ๆ ทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ