ตลท.รับ"ไทยรีประกันชีวิต"เริ่มซื้อขาย 9 ต.ค.ใช้ชื่อย่อ"THREL"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 8, 2013 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า บมจ.ไทยรีประกันชีวิต (THREL) เป็นบริษัทธุรกิจประกันชีวิตลำดับที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเริ่มซื้อขายในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 นี้

ทั้งนี้ THREL เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน ที่เล็งเห็นความสำคัญของตลาดทุนจึงนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียน (Spin off) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน

THREL ดำเนินธุรกิจรับประกันภัยต่อ (Reinsurer) สำหรับการประกันชีวิตทุกประเภท โดยมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทประกันชีวิตในประเทศ บริษัทฯ มีรายได้หลักจากเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ และการบริหารเงินลงทุน ซึ่งมาจากการกันเบี้ยประกันภัยรับเป็นเงินสำรองประกันชีวิต และนำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนให้ครอบคลุมภาระที่จะเกิดขึ้น

THREL มีทุนชำระแล้ว 600 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 590 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 10 ล้านหุ้น โดยนำหุ้นจำนวน 295 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้ถือหุ้น THRE 118 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อประชาชน 177 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 9.50 บาท มี บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายสุรชัย ศิริวัลลภ ประธานกรรมการบริหาร THREL เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ได้นำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุนให้เป็นไปตามเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital: RBC) และรองรับการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ THREL 3 ลำดับแรก ได้แก่ บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ ถือหุ้น 50.83 % NTASIAN DISCOVERY MASTER FUND ถือหุ้น 5.43% BNP PARIBAS SECURITIES SERVICES ถือหุ้น 3.11% การกำหนดราคา IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) โดยราคาดังกล่าวคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 19.65 เท่า โดยคำนวนจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ไตรมาส 3 ปี 2555 -ไตรมาส 2 ปี 2556) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.48 บาท

ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนด โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ