(เพิ่มเติม) KC เผยผู้ซื้อปฎิเสธทำเทนเดอร์ฯ เหตุการได้หุ้นไม่เป็นไปตามสัญญาซื้อขาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 18, 2015 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) แจ้งว่า นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร ซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจำนวนรวม 58.76% นั้นได้ปฎิเสธการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ในส่วนที่เหลือ โดยได้ชี้แจงว่า เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลตามหนังสือที่ กก.003/2558 ลงวันที่ 14 ม.ค.58 เรื่องชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ของ KC ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมคำชี้แจงต่างไปจากเนื้อหาสาระที่สำคัญที่ส่งให้แก่ KC

นอกจากนี้ การได้มาของหุ้น KC จำนวน 514,155,500 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.61 บาทนั้น ไม่ได้เป็นไปตามสัญญาซื้อขายหุ้นฉบับลงวันที่ 10 ม.ค.58 แต่เป็นการได้มาตามบันทึกข้อตกลงที่ได้จัดทำขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 10 ก.พ.58 ซึ่งเป็นการโอนกันนอกตลาดหลักทรัพย์ โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ได้มีการโอนหุ้น 172,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.61 บาท มูลค่า 448.92 ล้านบาท มีภาระภาษีเกิดขึ้น 94.74 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ขายและผู้ซื้อรับภาระคนละครึ่ง

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ได้มีการโอนหุ้นจำนวน 342,155,500 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.61 บาท มูลค่า 893.02 ล้านบาท มีภาระภาษีเกิดขึ้น 189.75 ล้านบาท โดยผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว

ด้าน KC ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การโอนหุ้นตามสัญญาซื้อขายลงวันที่ 10 ม.ค.58 ไม่ได้โอนตามวิธีการที่กำหนดในสัญญาเนื่องจากการทำรายการ Big Lot ของผู้ซื้อไม่เข้าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ได้รับการอนุมัติให้ทำรายการ Big Lot จากตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงซื้อขายกันนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีภาระภาษีเกิดขึ้น แต่การซื้อขายและการโอนก็ถือว่าเป็นไปตามสัญญาซื้อขายลงวันที่ 10 ม.ค.58

ขณะที่เมื่อวานนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้หยุดพักการซื้อขายหุ้น KC หลังนายภัทรภพได้ยื่นแบบประกาศปฎิเสธการทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ตามที่ได้เคยประกาศเจตนาไว้ซึ่งสารสนเทศดังกล่าวมีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ KC ซึ่งตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างสอบถามและยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากบริษัท

สืบเนื่องจาก KC ได้แจ้งว่านายชาย งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ และกลุ่มผู้ถือหุ้นรายอื่นของ KC ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวน 514,155,500 หุ้น คิดเป็น 58.76 % ของทุนชำระ กับนายภัทรภพ โดยผู้ซื้อจะซื้อหุ้นจากผู้ขายภายใน 60 วัน นับจากวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขาย (ภายใน 9 มีนาคม 2558) โดย KC ได้รับแจ้งข้อมูลจากนายภัทรภพว่าเมื่อได้ทำการซื้อหุ้นตามสัญญาแล้วจะทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ส่วนที่เหลือทั้งหมด ซึ่งต่อมาวันที่ 11 มีนาคม 2558 KC ได้รับแจ้งจากนายชาย งามอัจฉริยะกุลว่านายชายและกลุ่มผู้ถือหุ้นรายอื่นได้ขายหุ้นจำนวนดังกล่าวให้กับนายภัทรภพแล้ว (รายละเอียดปรากฎตามข่าว KC เมื่อวันที่ 12 ,14 มกราคม 2558 และ 11 มีนาคม 2558)

อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงสั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของ KC ต่อไป และขอให้ KC ชี้แจงข้อมูลในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้ภายในวันที่ 20 มี.ค. ได้แก่ 1.การประกาศปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ซึ่งตามที่ KC ชี้แจงว่าได้มีการหารือและได้รับความเห็นชอบจากนายภัทรภพว่า จะจัดทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ส่วนที่เหลือทั้งหมดเมื่อได้ทำการซื้อหุ้นตามสัญญาซื้อขายแล้ว รวมทั้งที่ผ่านมา KC ได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่าได้รับคำยืนยันจากนายภัทรภพในการทำคำเสนอซื้อหุ้น KC จึงขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่าเหตุใดนายภัทรภพ จึงประกาศปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ในวันที่ 16 มี.ค.58 ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียง 5 วัน ภายหลังจากที่นายภัทรภพซื้อหุ้น KC ได้ครบจำนวนตามสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.58

นอกจากนี้ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบต่อกรณีที่นายชาย งามอัจฉริยะกุล ในฐานะกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ทำสัญญาซื้อขายหุ้น KC กับนายภัทรภพ โดยระบุว่านายภัทรภพจะทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ส่วนที่เหลือทั้งหมด เมื่อได้ทำการซื้อหุ้นตามสัญญาซื้อขายแล้ว แต่ต่อมานายภัทรภพประกาศปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อหุ้น KC ทั้งที่ได้เคยแสดงเจตนาไว้และชี้แจงแนวทางดำเนินการต่อกรณีดังกล่าวซึ่งอาจทำให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปอาจสำคัญผิดในข้อเท็จจริง

2. เปรียบเทียบโครงสร้างการถือหุ้นก่อนและหลังจากที่กลุ่มนายชาย งามอัจฉริยะกุล ขายหุ้น KC ให้แก่นายภัทรภพ และปัจจุบันนายภัทรภพ ถือหุ้น KC เป็นจำนวนเท่าใด 3.ขอให้ชี้แจงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการบริหารงานและการประกอบธุรกิจของ KC ว่าภายหลังจากที่กลุ่มนายชาย งามอัจฉริยะกุล ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KC ได้ขายหุ้นจำนวน 514,155,500 หุ้น คิดเป็น 58.76% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่นายภัทรภพ และต่อมานายภัทรภพได้ประกาศปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว และจะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KC ลง

โดยขอให้อธิบายว่าโครงสร้างการบริหารจัดการและทิศทางการประกอบธุรกิจของบริษัท จะยังคงเป็นไปตามที่ KC ได้เคยชี้แจงว่าจะยังคงประกอบธุรกิจหลักในด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไปเช่นเดิม โดยนายภัทรภพจะเสนอกรรมการเข้ามาร่วมบริหาร แต่จะยังคงนายชาย งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ และนายสมศักดิ์ งามอัจฉริยะกุล เป็นกรรมการ หรือไม่ อย่างไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ