(เพิ่มเติม1) AIRA เซ็น MOU กับ"ซุปเปอร์ริชฯ"ร่วมขยายธุรกิจ-เล็งส่งเข้าตลาดหุ้นปีหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 18, 2015 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทธิพร ตัณฑิกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ. ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ(MOU) กับบริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์เซนจ์(1956) จำกัด และนายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของซุปเปอร์ริชฯ ในวันที่ 18 มี.ค.58 เพื่อกำหนดแนวทางและเงื่อนไขหลักในการจัดทำสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) และร่วมกันจัดทำแผนงานรองรับการขยายธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ด้านนางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIRA กล่าวว่า ซุปเปอร์ริช มีทุนจดทะเบียนปัจจุบันที่ 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จากนี้จะออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อให้ AIRA เข้าซื้อและใส่เงินทุนใหม่เข้าไป โดย AIRA จะเข้าถือหุ้นใหญ่ในซุปเปอร์ริชมากกว่า 50% และจะมีการปรับโครงสร้างการบริหาร โครงสร้างธุรกิจ เพิ่มสาขา เพิ่มบุคลากร และเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ

ทั้งนี้ AIRA มีแผนจะนำซุปเปอร์ริชเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอีก 1 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลประกอบการย้อนหลังของซุปเปอร์ริชมีกำไรต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จุดเด่นของซุปเปอร์ริชคือการให้บริการที่มีมาตรฐานเทียบเท่ากับธนาคารพาณิชย์ บุคลากรมีความซื่อสัตย์และมีความชำนาญในด้านธนบัตรต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทยังมีศักยภาพในการจัดหาปริมาณเงินตราต่างประเทศให้เพียงพอสำหรับการให้บริการลูกค้า รวมทั้งมีบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศมากถึง 32 สกุลเงิน และบริษัทยังให้มูลค่าอัตราแลกเปลี่ยนทั้งการซื้อและขายในอัตราที่ดีกว่า

"รอดูผลประกอบการซุปเปอร์ริชอีก 1 ปี แล้วนำเข้าตลาด ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการทำ Pre-Due Diligence ยังไม่สามารถ cover ราคาซื้อขายหุ้นได้เพราะเรานำเงินทั้งหมดเข้าสู่การลงทุนใหม่ ซึ่งคาดว่าดีลนี้น่าจะจบภายใน 1-2 เดือนนี้ จากนี้จะต้องเข้าที่ประชุมบอร์ดบริษัทและผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น โดยใช้เงินจากกระเงินสดของบริษัทในการเข้าลงทุน ณ ตอนนี้ยังไม่ต้องเพิ่มทุน"นางนลินี กล่าว

ปัจจุบัน ซุปเปอร์ริชมีสาขาจำนวน 17-20 สาขา ซึ่งจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นโดยเน้นแหล่งท่องเที่ยวเป็นสมรภูมิหลัก ใช้งบลงทุนเปิดสาขาตั้งแต่ 5 ล้านบาท/สาขาขึ้น ซึ่งหากได้รับเงินทุนใหม่อัดฉีดเข้ามาก็จะทำให้สภาพคล่องของบริษัทดีขึ้น ขณะที่ AIRA ก็จะมีผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ คือการขยายผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น และถือว่าเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่จะผลักดันให้เราจะก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ Non-bank ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ซึ่งบริษัทซุปเปอร์ริชเองถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพและเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากว่า 40 ปี " นางนลินี กล่าว

นางนลินี กล่าวอีกว่า แผนธุรกิจของ AIRA ในปีนี้จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงิน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากรายได้จากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าร่วมลงทุนอีก 1 ดีล คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ มูลค่าน่าจะมากกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นธุรกิจที่ใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องกับการเงิน

"การเจรจาคืบ 40-50% แล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามแผนที่ปีนี้จะมีการเข้าลงทุนใหม่ 2 บริษัท ปี 59 อีก 2 บริษัท และปี 60 อีก 2 บริษัท เพื่อให้มีบริษัทย่อยครบ 12 บริษัท จากปัจจุบันมี 6 บริษัท"นางนลินี กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทคาดว่าอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ต่อธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อย่างเป็นทางการไม่เกินกลางเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่บริษัทจะเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการสถานที่และบุคลากร หากได้ใบอนุญาตคาดว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในปี 59 โดยบริษัทยื่นขอ 2 ใบอนุญาตทั้งคอนซูมเมอร์ไฟแนนซ์และนาโนไฟแนนซ์

อย่างไรก็ตาม รายได้รวมในปี 58 สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจการโอนและรับโอนสิทธิเรียกร้องภายในประเทศ (แฟคตอริ่ง) ส่วนซุปเปอร์ริชก็น่าจะรับรู้กำไรเข้ามาบางส่วนในปีนี้ และในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ารายได้จะเติบโตอย่างมาก จากการวางรากฐานในช่วงนี้

ด้านนายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนล เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด กล่าวว่า AIRA จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของซุปเปอร์ริช เราคาดว่าเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและมีอัตราการเติบโตสูงมากเราจึงจำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ