อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจการกลั่น มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากค่าการกลั่นทางบัญชี (Accounting GRM) ปรับตัวขึ้น แม้ว่าในไตรมาสนี้ยังคงมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ กับการกลับรายการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ ณ สิ้นงวด(NRV) ประกอบกับเมื่อไตรมาส 1/57 มีโรงกลั่นบางแห่งหยุดผลิตจาก Major turnaround สำหรับกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมียังคงมีผลการดำเนินงานลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ ที่ราคาผลิตภัณฑ์ปรับลดลง เช่นเดียกับบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ที่ผลการดำเนินงานลดลง จากราคาขายเฉลี่ยลดลง แม้ว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น
ในไตรมาสนี้ PTT มีรายได้จากการขายจำนวน 515,583 ล้าบาท ลดลง 24.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ใช้อ้างอิง ส่งผลให้เกือบทุกกลุ่มธุรกิจมีรายได้จากการขายลดลง โดยลดลงมากในกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจการกลั่น ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ PTTมีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นและรายได้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน(EBITDA) จำนวน 71,739 ล้านบาทลดลง 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 1,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทร่วมในกลุ่มธุรกิจการกลั่น จากการที่ในไตรมาสนี้โรงกลั่นกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากที่ไตรมาส 1/57 มีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามแผน (Major Turnaround) ส่งผลให้ไตรมาสแรกมีปริมาณผลิตและจำหน่ายน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
บริษัทมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 24.5% มาที่ 36,163 ล้านบาท เป็นผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP จากโครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการอาทิตย์ ตามสินทรัพย์พร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการซอติก้า ที่มีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเป็น 1,941 ล้านบาท จากระดับ 4,085 ล้านบาทในไตรมาส 1/57 เป็นผลจากการรับและจ่ายชำระเงินจากลูกหนี้และเจ้าหนี้การค้า สกุลเงินต่างประเทศ นอกจากนี้ PTTEP ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นด้วย