การลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าว ให้บริษัท ไบโอโกกรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 1 MW ในจ.ชัยนาท ด้วยเงินลงทุน 125 ล้านบาท และขนาด 1 MW ในจ.ชลบุรี ด้วยเงินลงทุน 125 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองโครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากกฟภ.แล้ว โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและเงินกู้ยืม
นอกจากนี้ อนุมัติให้ PSTC จัดซื้อที่ดินและลงทุนก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จ.เพชรบุรี ขนาด 1 MW ซึ่งได้รับหนังสือตอบรับซื้อไฟฟ้าจากกฟภ.แล้ว โดยมีมูลค่าลงทุน 48 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจัดตั้ง 5 บริษัทย่อย เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ในการลงทุนหรือผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในธุรกิจพลังงานทดแทน หรือรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า โดย PSTC จะถือหุ้นในแต่ละบริษัทสัดส่วน 99.97% ได้แก่ บริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 1 จำกัด,บริษํท พีเอสที เอนเนอร์ยี 2 จำกัด ,บริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 3 จำกัด ,บริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 4 จำกัด และบริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 5 จำกัด
รวมถึงอนุมัติการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 1 บริษัท ร่วมกับกลุ่มนายกฤติพงษ์ วงศ์พานิช เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนของสหกรณ์การเกษตร โดย PSTC จะถือหุ้น 60% และกลุ่มนายกฤติพงษ์ ถือหุ้น 40% โดยคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งภายในเดือนธ.ค.58
คณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัทย่อย คือ บริษัท ไบโอโกกรีน จำกัด จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดซื้อที่ดินและการดำเนินงานของบริษัท เพื่อรองรับการจัดซื้อที่ดินของโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเพิ่มทุนภายในเดือนก.ย.58