ADAM เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาซื้อ"สิทธารมย์"เป็น 19 ส.ค.,ที่ปรึกษาการเงินฯมองไม่เหมาะสม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 22, 2016 08:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติให้เลื่อนการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2559 เป็นวันที่ 19 ส.ค.59 จากเดิมกำหนดวันที่ 28 ก.ค.59 เนื่องจากเอกสารสำหรับการนำส่งให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาก่อนการประชุมนั้น ยังจัดทำไม่เสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีเอกสารบางรายการที่ต้องการแก้ไขเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด ซึ่งการเลื่อนกำหนดการประชุมดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นทั้ง 100% ในบริษัท สิทธารมย์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (สิทธารมย์) มูลค่ารวม 370 ล้านบาท ที่บริษัทจะซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ขาย ซึ่งรวมถึงบมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE)

โดยภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสิทธารมย์ และบริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายหุ้น และบริษัทได้ชำระเงินค่าหุ้นเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการบันทึกเงินลงทุนดังกล่าวเป็นบริษัทย่อย ซึ่งจะปรากฎในงบการเงินของบริษัทงวดไตรมาส 3/59 โดยในการทำการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้มีมูลค่าเงินลงทุน 370 ล้านบาท

บริษัทจะดำเนินการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยสิทธารมย์ เข้ามาในงบของบริษัท โดยใช้มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ได้มีการตกลงเข้าซื้อ และปรับปรุงทรัพย์สินแต่ละรายการให้สะท้อนมูลค่ายุติธรรม ส่วนต่างของมูลค่าที่จ่ายซื้อและมูลค่าตามบัญชีที่ได้ปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมแล้ว จะถูกบันทึกเข้าในบัญชีบริษัทเป็นค่านิยม (Goodwill) ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของบริษัท จะดำเนินการตรวจสอบการตั้งด้อยค่าทุกสิ้นงวด และหากพบว่าผลการดำเนินการไม่เป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ จะทำการด้อยค่าความนิยมที่ได้บันทึกไว้ต่อไป

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาซื้อหุ้นสิทธารมย์ จะมีราคาสูงกว่าราคาประเมินตามที่ปรากฎอยู่ในรายงานของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ และที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ให้ความเห็นว่าการเข้าซื้อสิทธารมย์ของบริษัทนั้นไม่เหมาะสม คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการการตรววจสอบ มีความเห็นว่าการซื้อหุ้นสิทธารมย์นั้น จะเป็นไปตามแผนและเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบริษัทเข้าข่ายเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด (Cash Company) ซึ่งเมื่อบริษัทเข้าซื้อหุ้นสิทธารมย์แล้ว จะทำให้บริษัทเริ่มมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง และมีผลกำไรมาตลอด

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงต้องปรับปรุงคุณสมบัติบางส่วนของสิทธารมย์ เพื่อให้สิทธารมย์มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่ เช่น เกณฑ์ผลการดำเนินงน เกณฑ์กำไรสุทธิ และการบริหารงานภายใต้ผู้บริหารชุดเดียวกัน เนื่องจากโครงการสิทธารมย์ได้ปิดโครงการที่ 1 เรียบร้อยไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการทยอยก่อสร้างและรับรู้รายได้โครงการที่ 2 ซึ่งจะเป็นโครงการภายใต้การบริหารจัดการโดยทีมงานของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4/59 และจะจำหน่ายโครงการที่ 2 ได้ทั้งหมดภายในไตรมาสที่ 2/60

บริษัทได้ดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาในการจัดวางระบบควบคุมภายในของสิทธารมย์ ภายหลังจากเข้ามาเป็นบริษัทย่อย โดยคาดว่าการวางระบบควบคุมภายใน และการตรวจสอบระบบควบคุมภายในจะดำเนินการเสร็จภายในไตรมาส 3/59 และเมื่อการปรับปรุงคุณสมบัติครบถ้วนแล้วจะดำเนินการยื่นคำขอรับหลักทรัพย์ใหม่ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ