บมจ.ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (DCORP) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติใช้เงินไม่เกิน 290 ล้านบาทเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซชีวภาพ (ไบโอแก๊ส) ที่ จ.สุพรรณบุรี ขนาด 4.9 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท อัครวัฒน์ พลังงานพืชหมุนเวียน จำกัด (อัครวัฒน์) โดยจะเข้าถือหุ้นในอัครวัฒน์ 50% มูลค่ารวม 110 ล้านบาท และใช้งบลงทุนอีกไม่เกิน 180 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่โรงไฟฟ้า จัดหา และติดตั้งเครื่องจักรในโครงการ จากปัจจุบันที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการไม่ได้เต็มประสิทธิภาพและไม่ต่อเนื่องแม้ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าแล้วเมื่อปี 53 ขณะที่โครงการดังกล่าวจะสามารถทำรายได้ประมาณ 125 ล้านบาท/ปี
DCORP คาดว่าการซื้อขายหุ้นในอัครวัฒน์ จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนก.ค.59 และบริษัทจะดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง และเข้าทำสัญญากับคู่สัญญาผู้รับเหมาปรับปรุงพื้นที่ จัดหา และติดตั้งเครื่องจักรภายในเดือนก.พ.60 เพื่อปรับปรุงกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าดังกล่าว
สำหรับ อัครวัฒน์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ด้วยกำลังผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 4.9 เมกะวัตต์ และเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.53
แต่เนื่องจากเครื่องจักรในกระบวนการผลิตเป็นเครื่องจักรที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้อัครวัฒน์ มีผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คาด และเริ่มขาดสภาพคล่อง กลุ่มผู้ถือหุ้นอัครวัฒน์ จึงต้องการผู้ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้มีกำลังการผลิตเต็มประสิทธิภาพเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟภ.เต็มจำนวนการรับซื้อภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทพิจารณาการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยเห็นว่าการเข้าร่วมลงทุนในอัครวัฒน์ และการปรับปรุงเครื่องจักรในการผลิตไฟฟ้าของอัครวัฒน์ ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าสามารถทำงานได้ต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพที่กำลังผลิตไฟฟ้า 4.9 เมกะวัตต์ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าแก่อัครวัฒน์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 15% สำหรับแหล่งเงินลงทุนในการเข้าดำเนินการดังกล่าวนั้นจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
นายอนิศ โอสถานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ DCORP กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนับว่าเป็นโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สขนาดใหญ่ที่ยังได้รับการซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ ADDER ในอัตรา 30 สตางค์/หน่วย ถือเป็นโครงการที่ดีในด้านของผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถทำรายได้ประมาณ 125 ล้านบาท/ปี
"การที่บอร์ดมีมติให้บริษัทเข้าดำเนินการซื้อหุ้นในสัดส่วน 50%ของบริษัทอัครวัฒน์ฯ ถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่บริษัทจะดำเนินกิจการภายในประเทศด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งบริษัทเองได้มีการประเมินและวิเคราะห์ถึงโอกาส และผลตอบแทนที่ดีที่จะมีขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าที่ชัดเจนกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค"นายอนิศ กล่าว