(เพิ่มเติม) TPIPL จะไม่ขายหุ้น TPIPP ที่ถืออยู่ 70.2% ภายใน 1 ปีหลังคาดเข้าซื้อขายใน SET วันที่ 5 เม.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 31, 2017 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 มี.ค.มีมติไม่จำหน่าย โอน หุ้นสามัญของบมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ทั้งจำนวน 5,899,999,300 หุ้น หรือ 70.2% เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้น TPIPP เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ TPIPP และยังเป็นการแสดงเจตนารมย์ของบริษัทในการถือหุ้นระยะยาวใน TPIPP

ทั้งนี้ TPIPP ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 7 บาท คิดเป็นเงินที่จะระดมทุนได้ 1.75 หมื่นล้านบาท และได้ยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.59 ให้รับหุ้นสามัญของ TPIPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าจะเริ่มทำการซื้อขายได้ในวันที่ 5 เม.ย.60

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ ของ TPIPP กล่าวว่า การที่คณะกรรมการบริษัท ของ TPIPL มีมติไม่ขาย หรือโอนหุ้นที่ ถืออยู่ใน TPIPP ทั้งหมดจำนวน 70.2% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TPIPP เป็นเวลา 1 ปี นับจากวันแรกที่หุ้น TPIPP เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนั้น นับว่าสูงกว่าหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ห้ามไม่ให้ TPIPL ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP จำนวน 4,620 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น55% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ภายในระยะเวลา 1 ปี (Silent Period) เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของ TPIPP ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง รวมถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) จึงต้องการถือหุ้นในระยะยาว

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ TPIPL ยังอนุมัติเปลี่ยนนโยบายการบัญชี สำหรับการตีราคาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ จากวิธีการตีราคาใหม่เป็นวิธีราคาทุน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 การเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว จะส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้น (องค์ประกอบการอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น) ลดลงจำนวน 1.83 หมื่นล้านบาท (ประกอบด้วยสินทรัพย์ลดลงในส่วนของบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จำนวน 2.29 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ด้านหนี้สินลดลงในส่วนของบัญชีหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจำนวน 4.58 พันล้านบาท)

ภายหลังการเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว บริษัทจะไม่มีภาระในการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จขของบริษัท จำนวนประมาณ 1.3 พันล้านบาท/ปีอีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีในอนาคต

ด้านนายภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ TPIPP กล่าวว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการของ TPIPL ที่ตัดสินใจยืนยันไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP ที่ถืออยู่ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ปีนั้น จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น TPIPP

ขณะที่ TPIPP ได้ปิดการขายหุ้น IPO จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งหุ้น IPO จำนวนดังกล่าว คิดเป็น 29.8% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ TPIPP ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยได้ขายหุ้น IPO ให้แก่นักลงทุนสถาบันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 45% เสนอขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยประมาณ 43% และเสนอขายให้แก่ผู้มีอุปการคุณประมาณ 12% ซึ่งสัดส่วนที่ขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันและมีความสมดุลที่ดี ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 5 เม.ย.นี้

ปัจจุบัน TPIPP อยู่ระหว่างขยายการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 3 โรง ซึ่งคาดว่าโรงไฟฟ้าทุกแห่งจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ได้แก่ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 70 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะนำกำลังการผลิตติดตั้งไปรวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 100 MW เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถลงนามในสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. ได้ทันตามกำหนดภายในวันที่ 7 ก.ย.60

ขณะเดียวกัน TPIPP อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 MW และก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW ที่ออกแบบให้สามารถผลิตไฟฟ้าสำรองป้อนให้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 60 MW หรือโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW โรงใดโรงหนึ่งในกรณีที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต หรือต้องปิดซ่อมบำรุง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟผ. และส่งผลดีต่อความสามารถการทำกำไรในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ