บมจ.ยู ซิตี้ (U) แจ้งว่า ตามที่ U ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60 เรื่องการเข้าซื้อกิจการโรงแรมในทวีปยุโรป โดยให้ Vienna House Capital GmbH (AcquiCo) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ U ในประเทศออสเตรีย เข้าทำสัญญาเข้าซื้อหุ้นใน Vienna International Hotel Management AG (VI) จาก Amber Privatstiftung (Amber) และ Bocca Privatstiftung (Bocca)
รวมทั้งเข้าซื้อหุ้น/รับโอนสิทธิและหน้าที่ ในนิติบุคคลอีก 10 แห่ง จากผู้ขายคือ Warimpex Finanz- und Beteiligungs AG (Warimpex) และ รับโอนหนี้เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้นเดิมที่บริษัทเป้าหมายมีอยู่กับผู้ขาย และ/หรือผู้ถือหุ้นเดิม
ล่าสุด บริษัทได้เข้าถือหุ้นทั้งหมดใน VI ในสัดส่วน 100% เมื่อวันที่ 31 พ.ค.60 โดยมีค่าตอบแทนรวมเบื้องต้น 166,918,809 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 6,396,328,760.88 บาท โดยอ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลยูโรเทียบกับเงินสกุลบาท ซึ่ง 1 ยูโร มีมูลค่าเท่ากับ 38.32 บาท
นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร U ระบุว่า การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว U จะเข้าถือหุ้น 100% ธุรกิจโรงแรม Vienna House ภายใต้บริษัท VI ซึ่งเป็นโรงแรมที่เน้นกลุ่มธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน จำนวน 16 แห่ง รวมถึงโรงแรมในเครือของบริษัท Warimpex บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติออสเตรียและโปแลนด์ อีก 8 แห่ง
บริษัทใช้เงินทุนในการซื้อกิจการโรงแรมในครั้งนี้ด้วยเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเงินสดในปัจจุบัน โดยบริษัทคาดว่าบริษัทย่อย VH Capital จะรับรู้รายได้ต่อปีจากการลงทุนครั้งนี้ประมาณ 115 ล้านยูโร หรือประมาณ 4,300 ล้านบาท และมีรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) ประมาณ 26 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 970 ล้านบาท และคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 20% ในอีก 4 ปีข้างหน้า
“นอกจากในส่วนของโรงแรมแล้ว เรายังได้แพลตฟอร์มธุรกิจการจัดการบริหารโรงแรมซึ่งบริหารโรงแรมทั้ง 24 แห่ง และสัญญาการบริหารโรงแรมให้กับโรงแรมอื่นๆอีก 12 แห่ง สำหรับแพลตฟอร์มของการบริหารจัดการและแบรนด์โรงแรมต่างๆ จะเป็นกลไกสร้างการเติบโตของการขยายธุรกิจโรงแรมดังกล่าว พร้อมเสริมความแกร่งให้กับโรงแรมที่มีอยู่เดิมในไทยของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมี โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์, โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปาและโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพมหานคร"นางสาวปิยพร กล่าว
การลงทุนซื้อกิจการโรงแรมของบริษัทฯ ในครั้งนี้ U ได้ทั้งตลาดท่องเที่ยวในยุโรปที่แข็งแกร่งและมีมาอย่างยาวนานและตลาดที่จัดได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ของชาวยุโรป อาทิ เยอรมัน โปแลนด์ ฝรั่งเศส และสาธารณรัฐเชค ซึ่ง ยู ซิตี้ จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่น่าสนใจของตลาดดังกล่าวในการสร้างรายได้ระยะยาว
และล่าสุดรายงานของ STR Global สถาบันรายงานสถิติโรงแรมทั่วโลกระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 60 โรงแรมในแถบยุโรปโชว์การเติบโตผ่านตัวชี้วัดสำคัญ อัตราการเข้าพัก (Occupancy) เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ อัตราราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) เพิ่มขึ้น 2.5% และรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) เพิ่มขึ้นถึง 5.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น U ได้มีการลงทุนซื้ออาคารสำนักงานให้เช่าเกรด เอ ขนาด 9,700 ตร.ม. กลางกรุงลอนดอน บนถนนเกรซเชิร์ช สตรีท (Gracechurch Street) และกำลังทำสัญญาซื้ออาคารสำนักงานให้เช่าแห่งที่สอง ขนาด 2,400 ตร.ม.บนถนนอันเดอร์วูด สตรีท (Underwood Street) รวมถึงยังมีโครงการมิกซ์ยูซที่จะเป็นโรงแรม รีเทล และสำนักงานให้เช่าที่พญาไทที่จะเริ่มก่อสร้างปี 60 และโครงการมิกซ์ยูซที่หมอชิต ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 61