บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) แจ้งว่าเนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาการจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ระหว่างบมจ.เอคิว เอสเตท และบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (บริษัท โกลเด้นฯ) และ บริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ จำกัดนั้น
บริษัทขอแจ้งความคืบหน้าในคดีแพ่งระหว่างบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียลพาร์ค จำกัด กับธนาคากรุงไทย (KTB) ดังนี้ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร ในฐานะกรรมการ บริษัท โกลเด้นเทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (โกลเด้นฯ) ซึ่งเป็นไปตามสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ได้เข้าฟังคำพิพากษาคดีแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ ธ.268/2549 และ คดีหมายเลขแดงที่ ธ.2687/2550 ที่โจทก์ คือธนาคารกรุงไทย ฟ้อง บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด และ พวก 4 ราย เป็นทุนทรัพย์ 10,234,752,863.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 8,368,732,100 บาท
โดยทนายความของบริษัท โกลเด้นฯ ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา อ้างว่า บริษัท โกลเด้นฯ และ บมจ.เอคิว เอสเตท เดิมมีภาระหนี้ตามคำพิพากษาในดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักทางการเมือง ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกัน โดยผู้บริหารของบริษัท โกลเด้นฯ และผู้บริหารบมจ.อคิว เอสเตท ได้ร่วมกันเจรจาและตกลงประนีประนอม โดยบรรลุข้อตกลงในการเจรจาประนีประนอมยอมความกันแล้ว เพียงแต่รอการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ในการผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้เท่านั้น
ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย โจทก์ ตกลงร่วมกันที่จะขอเลื่อนกำหนดอ่านคำพิพากษาของศาลออกไปอีกหนึ่งนัด เพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีความประสงค์ที่จะประนีประนอมยอมความกับโจทก์ จึงเห็นสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดี โดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 กันยายน 2560