(เพิ่มเติม) ตลท.รับหลักทรัพย์ INGRS เข้าซื้อขายใน SET ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 8, 2017 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญ ของบมจ.อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) ใช้ชื่อย่อว่า INGRS เข้าซื้อขายใน SET ในกลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจ ยานยนต์ โดยวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และวันที่เริ่มทำการซื้อขาย ในวันที่ 9 ส.ค.60 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 1,446.94 ล้านหุ้น และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 1,446.94 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 1,446.94 ล้านบาท ขณะที่มีจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 578.44 ล้านหุ้น ที่ราคา IPO หุ้นละ 1.33 บาท

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท. กล่าวว่า อิงเกรสฯ เป็น Holding Company ที่ลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ โดยถือหุ้นในบริษัทย่อยทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 8 บริษัท และบริษัทร่วม 1 บริษัท โดยมี บริษัท อิงเกรส ออโตเวนเจอร์ จำกัด เป็นบริษัทแกนซึ่งประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย ขณะที่กลุ่มบริษัทมีฐานการผลิตอยู่ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย กลุ่มลูกค้าหลัก คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายยานยนต์ (OEMs) ที่มีการจำหน่ายให้แก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ Honda, Mitsubishi, General Motors, Isuzu Motors, Suzuki, Nissan, Toyota Motors, Perodua และ Proton เป็นต้น

สำหรับหุ้นที่เสนอขาย IPO ครั้งนี้ แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวน 261.56 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมโดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท จำนวน 316.88 ล้านหุ้น ต่อผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบัน และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของกลุ่มบริษัท ในราคาหุ้นละ 1.33 บาท เมื่อวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค.60 มีมูลค่าระดมทุนรวม 347.88 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,924.43 ล้านบาท โดยมี บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายอับดุลราฮิม บินฮาญี ฮิตัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า บริษัทมีจุดแข็งทั้งด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมการผลิต ที่มุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งการเข้าจดทะเบียนและการระดมทุนของกลุ่มบริษัทในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทจะนำเงินที่ได้บางส่วนไปลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของลูกค้า รวมไปถึงชำระเงินกู้ และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม

หลัง IPO บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท อิงเกรส คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด ถือหุ้น 60.02% นายศักดิ์ชัย ยอดวานิช ถือหุ้น 1.38% และ กลุ่มพลากรกิจวัฒนา ถือหุ้น 1.12% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 10.59 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 พ.ค.59-30 เม.ย.60) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 181.67 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.1256 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ